
สรุปข่าว
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีที่โรงงานในหลายอุตสาหกรรมมีผู้ติดเชื้อโควิดเป็นจำนวนมากทำให้ต้องหยุดการผลิตว่า บริษัทที่มีผู้ติดเชื้อโควิดส่วนใหญ่เป็นผู้ส่งออกในอันดับต้น ๆ ของแต่ละอุตสาหกรรม ซึ่งเมื่อหยุดการผลิตก็จะกระทบซัพพลายเชนและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ดังนั้นการให้โควิดคลี่คลายนั้นรัฐต้อง เร่งจัดหาวัคซีนให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนเป็นเป็นวัคซีนที่มีคุณภาพต้านทานเชื้อโควิดที่กลายพันธุ์ได้ และเร่งระดมฉีดให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ควรปลดล็อกชุดตรวจโควิดเชิงรุก (Rapid Antigen Test Kit) ให้โรงงานต่างๆ สามารถนำไปตรวจคัดกรองคนงานได้ด้วยตัวเอง โดยพนักงานได้รับการฝึกอบรมในการใช้ชุดตรวจ เพื่อลดภาระต้นทุน และลดภาระบุคลากรทางการแพทย์
สำหรับผลตรวจโควิดที่แต่ละโรงงานได้มีการตรวจคัดกรองพนักงานเชิงรุกล่าสุดพบในแต่ละโรงงานมีผู้ติดเชื้อโควิดเฉลี่ยที่ 15-20% ของจำนวนพนักง านบางโรงสูงถึง 20-30% ซึ่งเป็นเรื่องที่ห่วงมากเนื่องจากสายพันธุ์ใหม่ (เดลต้า) ติดเชื้อได้ง่ายและแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วดังนั้นหากมาตรการยาแรงด้านสาธารณาสุขยังควบคุมไม่ได้ผลและเกินจะรับมือไหวอาจต้องมีการขยายพื้นที่ล็อกดาวน์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้เห็นว่ารัฐต้องเตรียมมาตรการฉุกเฉินและกลไกพิเศษในการจ่ายเงินชดเชยหรือเยียวยาภาคธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบ เช่น สหรัฐฯที่มีการจ่ายเงินชดเชยเข้าบัญชีของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ในอัตราเดียวกับรายได้พึงประเมินก่อนเกิดโควิด เพื่อให้สามารถประคองและฟื้นธุรกิจในช่วงโควิด
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า จากผลกระทบโควิดที่ลามสู่โรงงานผลิตส่งออก ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้ใช้มาตร การ Bubble & Seal คัดแยกคนที่ติดเชื้อและไม่ติดเชื้อออกจากกัน
ซึ่งตามข้อกำหนดหากมีพนักงานติดเชื้อเกิน 10% ต้องมีการตั้งโรงพยาบาลสนามในโรงงาน ซึ่งเวลานี้หลายโรงได้เริ่มแล้ว แต่ในรายที่ไม่มีพื้นที่มากพอเวลานี้มีทางเลือกใหม่คือไปใช้สถานที่วัดที่อยู่รอบ ๆ โรงงานในการตั้งโรงพยาบาลสนามในลักษณะเช่าพื้นที่ โดยเอกชนออกค่าใช้จ่าย หรือหากวัดใดมีมูลนิธิ หรือมีกองทุนที่อยากช่วยก็แล้วแต่จะหารือกัน
ส่วนการแก้ปัญหาโควิดโดยการล็อกดาวน์หรือประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศคงทำได้ยาก เพราะจะกระทบเศรษฐกิจและทุกภาคส่วนในวงกว้าง ซึ่งธุรกิจล้มแล้วลุกยาก คงต้องล็อกดาวน์เป็นจุด ๆ และเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ตามสถานการณ์ความรุนแรง แต่หากจะทำมาตรการรัฐต้องครบทุกด้าน
ทั้งการเร่งฉีดวัคซีนในคลัสเตอร์ที่มีผู้ติดเชื้อมาก ๆ การใช้ชุดตรวจสอบเชิงรุก และพิจารณาว่ากิจการไหนต้องหยุดบ้าง ธุรกิจไหนยังหยุดไม่ได้ เช่น ร้านอาหาร และร้านขายยา อย่างไรก็ตาม สินค้าอาหารส่งออกท่ามกลางสถานการณ์โควิดปีนี้ยังมั่นใจว่าจะส่งออกได้ที่ระดับ 1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 3-5%
- พาณิชย์สั่งห้าม ATK ขาด-ห้ามแพง ย้ำผู้ค้าต้องเติมสต๊อกทันที
- ไทยน่าลงทุน! รัฐบาลเร่งปูทางไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ของภูมิภาค
- โควิด NB.1.8.1 เป็นสายพันธุ์หลักในไทยแล้ว มีแนวโน้มมากขึ้น
- วัคซีนโควิด-19 ไม่ถูกถอดจากรายชื่อวัคซีนแนะนำในสหรัฐฯ
- โควิด-19 ระบาดหลายภูมิภาค! "สายพันธุ์ NB.1.8.1" แพร่กระจายเร็ว อย่าชะล่าใจ
- กรมวิทย์ฯ คาดโควิดสายพันธุ์ NB.1.8.1 กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในประเทศไทยและทั่วโลก
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand