ผงะเอสเอ็มอี! จ่อคิวเข้าข่ายเอ็นพีแอลมูลหนี้กว่า 4.3 แสนล้าน

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย  เปิดเผยว่า ขณะนี้ธุรกิจเอสเอ็มอีขาดสภาพล่องสัดส่วน 13% ที่จะอยู่ไม่รอดภายใน 3 เดือน และอีก 40% ที่อาจอยู่ไม่รอดภายใน 6 เดือน  อยากให้รัฐช่วยเหลือเอสเอ็มอีด้วยการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน  โดยธนาคารจะต้องหยุดคิดดอกเบี้ยในส่วนของเงินต้น  เพราะปัจจุบันแม้ธนาคารหยุดคิดดอกเบี้ยในส่วนที่เป็นดอกเบี้ยก็จริง แต่ดอกเบี้ยจากเงินต้นยังคงเดินอยู่ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบหนักมากขึ้น เพราะไม่มีรายได้จากพิษโควิด 

"มาตรการการล็อกดาวน์ที่ประกาศในพื้นที่ 29 จังหวัด ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบมาก เพราะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจมี ขนาดจีดีพีรวมกันกว่า 70-80% ของจีดีพีประเทศส่งผลให้ธุรกิจจำนวนมากขาดสภาพคล่องอย่างหนัก โดยเฉพาะเอสเอ็มอี

และหากไม่มีมาตรการเพิ่มเติมจะกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการเข้าข่ายกลุ่มเฝ้า

ระวังเป็นเอ็นพีแอล (กลุ่มสีเหลือง) จำนวนมากมีหนี้รวม 4.3 แสนล้านบาท หากปล่อยไว้อีกไม่กี่เดือนจะเป็นเอ็นพีแอล ถ้าไม่มีมาตรการพักชำระหนี้และดอกเบี้ย"