
สรุปข่าว
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 65 การบินไทยจำเป็น ต้องกู้เงิน 25,000 ล้านบาท จากภาคเอกชนเพื่อมาเสริมสภาพคล่องและใช้จ่ายบริหารงานทำธุรกิจในปี 65 ซึ่งคาดว่าเงินจำนวนดังกล่าว จะมากพอที่จะทำให้การบินเดินหน้าต่อไปได้อย่างแข็งแรง โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะเข้ามาในช่วงต้นเดือน ม.ค.-ก.พ. 65
ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวจะมาบริหารจัดการจ่ายคืนค่าตั๋วโดยสารของลูกค้าจำนวน 12,000 ล้านบาท ,ค่าชดเชยให้พนักงานการบินไทยในการเข้าร่วมสมัครใจลาออกจำนวน 4,000 ล้านบาท และค่าเช่าเครื่องบินอีก 2,800 ล้านบาท และเป็นค่าบริหารจัดการทั่วไป
นอกจากนี้จะขอสินเชื่อใหม่จากรัฐบาลวงเงิน 25,000 ล้านบาท เพื่อที่จะทำให้การบินไทยกลับเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประ เทศไทย เพื่อให้งบดุลทางบัญชีในปี 65 ดูสวยงามไม่ติดลบ อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัฐบาลจะใส่เงินเข้ามาฐานะการบินไทยจะยังเป็นเอกชนไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ เนื่องจากสัดส่วนผู้ถือหุ้นของรัฐจะไม่เกิน 40%
ทั้งนี้คาดว่ารัฐจะได้รับประโยชน์ 4 ประเด็นหลักคือ 1.แนวโน้มการทำธุรกิจของการบินไทย หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด จะกลับมาทำกำไรแน่นอน 2.สภาพคล่องการบินไทยจะดีขึ้นภายหลังมีการกู้เงิน 25,000 ล้านบาท
3. การบินไทยมีหลักทรัพย์ที่ค้ำประกันได้ โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ ที่ดินทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ และ 4.หากเจ้าหนี้การบินไทยให้การบินไทยกู้ เจ้าหนี้จะมีสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนในราคา 2.54บาทต่อหุ้น ขณะที่ราคาพาร์อยู่ที่ 10 บาทต่อหุ้น ซึ่งทำให้เห็นว่าเมื่อสถานการณ์การบินดีขึ้น การบินไทยกลับมาทำการบินอย่างเต็มรูปแบบจะมีกำไรอย่างแน่นอน
สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการภาพรวมระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมานั้น ได้ลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย การปรับโครง สร้างและขนาดองค์กร และเพิ่มการหารายได้ กำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจใหม่ได้แก่ “สายการบินคุณภาพสูง ที่ให้บริการเต็มรูปแบบ
ด้วยความแข็งแกร่งของอัตลักษณ์ความเป็นไทย เชื่อมโยงประเทศไทยสู่ทั่วโลก และสร้างผลกำไรที่ดีอย่างต่อเนื่อง” และมีพันธกิจ 4 ด้าน คือ 1. สร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า 2. ความเป็นเลิศด้านการพาณิชย์ 3. ต้นทุนที่แข่งขันได้
4. ผู้นำด้านปฏิบัติการบิน และได้ดำเนินโครงการปฏิรูปธุรกิจ (Transformation Initiatives) ที่พัฒนาจากการระดมสมองของพนักงานทุกระดับกว่า 400 โครงการส่งผลให้สามารถลดค่าใช้จ่ายได้เป็นมูลค่า 44,800 ล้านบาทต่อปีเปรียบเทียบกับปริมาณการผลิตที่ใกล้เคียงกับปี 2562 ค่าใช้จ่ายจำนวนดังกล่าวคิดเป็น 77% ของเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนปฏิรูปธุรกิจมีโครงการสำคัญๆ
ทั้งนี้ครอบคลุมด้ด้านบุคลากร 16,000 ล้านบาท ด้านประสิทธิภาพฝูงบินและการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 12,000 ล้านบาทการเจรจาปรับปรุงสัญญาเช่าเครื่องบินและซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ 11,300 ล้านบาท ด้าน การปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดซื้อจัดจ้าง 1,100 ล้านบาท ด้านการปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติการบิน 719 ล้านบาท ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพฝ่ายช่าง 802 ล้านบาท และด้านอื่นๆ 3,200 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทฯ ได้รับความร่วมมือจากพนักงานทุกระดับเป็นอย่างดีในการสมัครใจเข้าร่วมรับการกลั่นกรองในโครงการปรับโครงสร้าง ลดขนาดองค์กร ปรับเปลี่ยนสภาพการจ้างและโครงสร้างค่าตอบแทนบุคลากร โครงการลาหยุดโดยไม่รับเงินเดือน (Leave without Pay) รวมถึงโครงการร่วมใจจากองค์กร (Mutual Separation Plan) ซึ่งมีพนักงานที่เสียสละเข้าร่วมโครงการรวมกว่า 6,000 คน เมื่อเปรียบเทียบกับในปี 2562 มีจำนวนบุคลากรรวมแรงงานภายนอกจำนวน 29,500 คน
ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานทั้งสิ้น 14,900 คน ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายบุคลากรลดลงจากเดือนละกว่า 2,600 ล้านบาทต่อเดือน เหลือกว่า 600 ล้านบาทต่อเดือน จำนวนผู้บริหารทุกระดับลดลงในสัดส่วน 35 % ส่งผลให้ประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการทำงานสูงขึ้น จากจำนวนพนัก งานที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถกระชับพื้นที่ทำงานในส่วนของสำนักงานใหญ่และพื้นที่สำนักงานสาขาในต่างจังหวัด สามารถนำพื้นที่ว่างและไม่ได้ใช้งานมาหาประโยชน์ในการสร้างรายได้และเสริมสภาพคล่องทั้งโดยการให้เช่าและจำหน่าย อาทิ การให้เช่าอาคารสำนักงานใหญ่ การจำหน่ายอาคารและที่ดินสำนักงานหลักสี่ หลานหลวง ภูเก็ต และที่ดินเปล่าในจังหวัดเชียงใหม่
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ยกระดับระบบประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรใหม่ ยกเลิกและปรับลดสิทธิประโยชน์ของผู้บริหารและพนักงาน อาทิ ยกเลิกสิทธิบัตรโดยสารกรรมการบริษัทฯ และพนักงานเกษียณ การจ่ายภาษี สิทธิการปรับชั้นโดยสาร (Upgrade) พนักงาน ค่าพาหนะผู้บริหาร ค่ารักษาพยาบาล
โดยปรับให้เป็นไปตามสิทธิประกันสังคม เงินชดเชยวันหยุดพักผ่อนประจำปีที่ใช้ไม่หมดภายในระยะเวลาที่ระเบียบฯ กำหนด (Vacation Compensation) ปรับเปลี่ยนโครงสร้างค่าตอบแทนรวมถึงหลักเกณฑ์การคำนวณค่าทำงานล่วงเวลา ลดสิทธิบัตรโดยสารพนักงาน เป็นต้น
ส่วนการปรับโครงสร้างหนี้ บริษัทฯ ขยายเวลาการชำระหนี้ออกไป 5-7 ปี โดยการพักชำระหนี้ เงินต้นและดอกเบี้ย 2-3 ปี ปรับลดภาระหนี้ในส่วนดอกเบี้ยตามภาระผูกพันเดิมเหลือ 1.5 % ปรับลดภาระผูกพันตามสัญญาเช่า/เช่าซื้อเครื่องบิน และเพิ่มทางเลือกในการชำระหนี้ ตามกรอบการดำเนินการที่ได้ระบุไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการ
นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนปลดระวางเครื่องบินที่มีอายุการใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสูงเพื่อจำหน่ายจำนวน 42 ลำ ยกเลิกสัญญาเช่าและเช่าซื้อจำนวน 16 ลำ จะทำให้บริษัทฯ มีฝูงบินรวม 58 ลำ
โดยรวมถึงฝูงบิน A320 ซึ่งสายการบินไทยสมายล์เช่าดำเนินการ 20 ลำ ซึ่งฝูงบินปัจจุบันมีความทันสมัย ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ลดต้นทุนด้านการบริหารฝูงบินและค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึงปีละ 12,000 ล้านบาทเมื่อทำการบินในปริมาณการผลิตใกล้เคียงปี 2562 และแบบเครื่องบินในฝูงบินของบริษัทฯ ลดลงจาก 9 แบบ เหลือ 4 แบบ
อย่างไรก็ตาม เดือนต.ค. 64 บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงานสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19เมื่อเดือนเม.ย. 63 สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการฟื้นฟูของธุรกิจการบิน โดยระหว่างเดือนเม.ย.63 - ต.ค. 64 บริษัทฯ มีรายได้จากเที่ยวบินขนส่งสินค้าทางอากาศ รวมกว่า 10,000 ล้านบาท มีรายได้จากหน่วยธุรกิจการบินในการให้บริการลูกค้ากว่า 80 สายการบินเป็นเงินรวม 4,800 ล้านบาทและมีแผนงานขยายธุรกิจ Master Franchise ร้าน Puff & Pie ไปทั่วประเทศ
ทั้งนี้จากความมุ่งมั่นในการหารายได้และการหาประโยชน์จากทรัพย์สินรองที่ไม่ได้ใช้งาน บริษัทฯ ขาดทุนจากการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 64 ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 63 เป็นเงิน 3,973 ล้านบาท เมื่อรวมรายการครั้งเดียวทางบัญชี ทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 11,121 ล้านบาท ดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปี 63 เป็นเงิน 39,151 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการและแผนปฏิรูปธุรกิจ ตลอดจนบริหารจัดการสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นผลให้บริษัทฯ มีกระแสเงินสดสำหรับการดำเนินธุรกิจอย่างเพียงพอต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมิ.ย.64 เป็นต้นมา
นอกจากนี้เพื่อร่วมขับเคลื่อนการเปิดประเทศตามนโยบายรัฐบาล บริษัทฯ ได้ปรับเพิ่มเส้นทางบินที่ให้บริการเริ่มตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.64 – 26 มีนาคม 65 โดยภายในไตรมาสที่ 1/2565 จะมีเส้นทางบินในทวีปเอเชีย 19 จุดบิน ในทวีปยุโรป 9 จุดบิน ในทวีปออสเตรเลีย 1 จุดบิน และภายในประเทศโดยสายการบินไทยสมายล์ 14 จุดบิน ด้วยบริการเต็มรูปแบบ (Full Services)
ที่มา : การบินไทย
ภาพประกอบ : การบินไทย
ที่มาข้อมูล : -

TNNThailand