สทท.หนุน เปิดประเทศ ย้ำตั้งการ์ดสูง มั่นใจไม่ล็อคดาวน์ซ้ำ

วันนี้(2 พ.ย.64) นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า นโยบายการเปิดประเทศ 1 พ.ย.ที่ผ่านมาของรัฐบาล เป็นเรื่องที่จำเป็น เนื่องจากภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME ได้รับผลกระทบต่อเนื่องมาตลาดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา และมีการปิดกิจการชั่วคราวและถาวรไปหมดแล้ว ยังคงเหลือแต่ผู้ประกอบการขนาดกลางขึ้นไป ที่มีสายป่านมากพอดำเนินธุรกิจได้ราว 50% และการเปิดประเทศครั้งนี้ เชื่อว่าจะค่อยๆ ฟื้นภาคท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาภายใน 2 ปี หรือ ปี 2566 

ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า ภาคเอกชนมีการตั้งการ์ดสูง โดยใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเข้มข้น สังเกตุได้จาก ภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ ไม่พบนักท่องเที่ยวต่างชาติ นำเชื้อเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย และพนักงานต้อนรับคนไทย ก็ไม่นำเชื้อไปติดนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงมั่นใจว่า หากรัฐบาลมีการดำเนินงานที่รัดกุมมากพอ เชื่อว่า ประเทศไทยจะไม่กลับไปปิดประเทศอีกครั้ง 

นอกจากนี้ การพัฒนาของวัคซีน และยารักษาโรคโควิด-19 เป็นส่วนหนึ่งทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลาย จนกลายเป็นโรคประจำถิ่นในท้ายที่สุด ซึ่งทั่วโลกต้องอยู่ร่วมกับโรคโควิด-19 ให้ได้ 

สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีการตอบรับการเปิดประเทศของไทยอย่างมาก คาดว่าจะใกล้เคียงกับ ช่วงภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ คือ สหรัฐ อังกฤษ ยุโรป และอิสราเอล ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยเป็นจำนวนมาก และจุดหมายปลายทางยอดนิยม มีทั้งภูเก็ต กระบี่ รวมถึงคาดว่า พื้นที่ที่มีการเดินทางสะดวก โดยเฉพาะสนามบินตรงจากต่างประเทศ อย่างในกรุงเทพฯ เป็นต้น 

ข้อมูล : สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 

ภาพ : TNN Online