หุ้นดาวโจนส์วันนี้ 5 สิงหาคม 2568 ปิดพุ่ง 585.06 จุด นักลงทุนช้อนซื้อหลังดัชนีดิ่งหนัก

หุ้นดาวโจนส์วันนี้ 5 สิงหาคม 2568 ปิดพุ่ง 585.06 จุด นักลงทุนช้อนซื้อหลังดัชนีดิ่งหนัก

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์ (4 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหลังจากดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างหนักในวันศุกร์ (1 ส.ค.) นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. หลังมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาด

ดาวโจนส์ปิดที่ 44,173.64 จุด เพิ่มขึ้น 585.06 จุด

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,173.64 จุด เพิ่มขึ้น 585.06 จุด หรือ +1.34%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,329.94 จุด เพิ่มขึ้น 91.93 จุด หรือ +1.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,053.58 จุด เพิ่มขึ้น 403.45 จุด หรือ +1.95%

หุ้นดาวโจนส์คืออะไร? ทำความเข้าใจดัชนีสำคัญของตลาดหุ้นโลก

สรุปข่าว

หุ้นดาวโจนส์วันนี้ 5 สิงหาคม 2568 ปิดที่ 44,173.64 จุด เพิ่มขึ้น 585.06 จุด นักลงทุนช้อนซื้อหลังดัชนีดิ่งหนัก ตลาดได้แรงหนุนจากการคาดการณ์เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์ (4 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหลังจากดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างหนักในวันศุกร์ (1 ส.ค.) นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. หลังมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาด

ดาวโจนส์ปิดที่ 44,173.64 จุด เพิ่มขึ้น 585.06 จุด

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,173.64 จุด เพิ่มขึ้น 585.06 จุด หรือ +1.34%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,329.94 จุด เพิ่มขึ้น 91.93 จุด หรือ +1.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,053.58 จุด เพิ่มขึ้น 403.45 จุด หรือ +1.95%

หุ้นดาวโจนส์คืออะไร? ทำความเข้าใจดัชนีสำคัญของตลาดหุ้นโลก

นักลงทุนช้อนซื้อหลังจากดัชนีร่วงลงอย่างหนัก

ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีดีดตัวขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหลังจากดัชนีร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ ภายหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด และยังได้ปรับลดการประเมินตัวเลขจ้างงานในเดือนพ.ค.และเดือนมิ.ย. ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน

อย่างไรก็ดี ขณะนี้นักลงทุนมองว่าตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 84% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. พร้อมกับคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ภายในสิ้นปีนี้

นักลงทุนซึมซับข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งปลดเอริกา แมคเอนทาร์เฟอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าเธอปลอมแปลงตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอ และในวันเดียวกัน เอเดรียนา คูเกลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดประกาศลาออกก่อนครบวาระ ซึ่งจะเปิดทางให้ปธน.ทรัมป์แต่งตั้งบุคคลใหม่เข้ามาแทนที่ และอาจเป็นการเปิดโอกาสให้ปธน.ทรัมป์เข้ามาเปลี่ยนแปลงนโยบาย เนื่องจากเขาพยายามผลักดันให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาโดยตลอด

ส่วนสถานการณ์ด้านการค้า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในวันจันทร์ว่า เขาจะปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดีย เนื่องจากอินเดียยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ในขณะที่รัฐบาลอินเดียกล่าวว่าจะใช้มาตรการเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ และระบุว่าการกระทำของปธน.ทรัมป์นั้นไร้เหตุผล

ติดตามความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นดาวโจนส์ได้ทุกวันที่นี่ 

ที่มาข้อมูล : IQ

ที่มารูปภาพ : AFP