สรุปข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (บอร์ดกกพ.) วันที่ 10 ก.ค.นี้ จะมีการพิจารณาวาระสำคัญคือเรื่องของอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.ที่คาดว่า จะต้องปรับเพิ่มขึ้นอีกประมาณหน่วยละ 20 - 40 สตางค์(สต.) จากค่าไฟฟ้างวดปัจจุบันที่รวมค่าไฟฟ้าฐานอยู่ที่หน่วยละ 4.18 บาท
เนื่องจากหลายๆ ปัจจัย โดยเฉพาะการทยอยคืนชำระหนี้ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ที่ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 98,000 ล้านบาท ซึ่ง กฟผ.มีภาระต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยและยังมีหนี้ค่าเชื้อเพลิงที่ต้องทยอยคืนให้กับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับภาระไปงวดก่อนหน้านี้ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์กระทบกับราคาซื้อก๊าซธรรมชาติรวมทั้งแนวโน้มความต้องการก๊าซที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว ส่งผลให้ราคาในตลาดโลกเพิ่มขึ้น จึงทำให้ค่าเอฟทีงวดนี้มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น
ทั้งนี้ หลังจากบอร์ด กกพ.มีมติรับทราบภาระต้นทุนการผลิตไฟฟ้าและเห็นชอบการคำนวณประมาณการณ์ค่าเอฟทีงวดสุดท้ายของปีนี้แล้วขั้นตอนต่อไป กกพ.จะเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ร่วมกันพิจารณา 3 ทางเลือกต่อไป
3 ทางเลือกของการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าในส่วนของเอฟทีไม่ว่าเพิ่มขึ้นอีกเท่าใดต่อหน่วย ต้องให้บอร์ด กกพ.พิจารณาในการประชุมดังกล่าว และกระบวนการทั้งหมดนี้จะต้องประกาศผลการพิจารณาภายในเดือน ก.ค. เพื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศค่าไฟฟ้าอัตราใหม่ล่วงหน้า 1 เดือน
ทั้งนี้ ถ้าดูจากปัจจัยหลายๆ อย่างแล้วต้องยอมรับว่า ค่าไฟฟ้างวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะประเด็นที่ กฟผ.ไปกู้เงินมาช่วยประชาชนไปก่อนมีภาระต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยงวดละหลายร้อยล้านบาทแล้ว หากยิ่งชำระคืนหนี้ให้ กฟผ.ช้าก็จะทำให้ กฟผ.ต้องแบกรับภาระจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม และถ้าปล่อยให้ กฟผ.รับภาระไปต่อเนื่องก็จะกระทบกับการจัดอันดับเรตติ้งการดำเนินงานของ กฟผ.ได้
ภาพจาก: MEA
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand