สรุปข่าว
ดร.ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยความคืบหน้าหลังจากธปท. ได้ออกหนังสือเวียน เรื่อง การเพิ่มความเข้มงวดในการจัดการบัญชีเงินฝากหรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ในกรณีลูกค้ามีความเสี่ยงสูงหรือใช้บัญชีที่มีลักษณะหรือพฤติกรรมผิดปกติ เพื่อให้ธนาคารนำข้อมูลรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงในระบบข้อมูล CFR หรือ ระบบ Central Fraud Registry มาใช้ข้ามธนาคาร เพื่อดำเนินการกับบัญชีต้องสงสัย หรือ “บัญชีม้าเทา” ได้ครอบคลุมและรวดเร็ว รวมทั้งเป็นมาตรฐานเดียวกันภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานั้น
ขณะนี้ ธนาคารพาณิชย์ได้ดำเนินการเชื่อมข้อมูลในระบบ CFR เรียบร้อยและเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยพบว่า มีบัญชีม้าเทาจำนวน 15,000 คน และเป็นจำนวนบัญชีราว 36,000 บัญชี
โดยรายชื่อบัญชีม้าเทาที่ถูกแจ้งความหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในเส้นทางเงินทุจริตของทุกธนาคารตามข้อมูลในระบบ CFR จะถูกระงับช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีออนไลน์ ทุกบัญชีทุกธนาคาร จนกว่าจะได้รับการพิสูจน์อย่างเข้มข้นว่าไม่ผิดถึงจะปลดล็อคให้ดำเนินการเปิดบัญชีใหม่ได้ จากเดิมจะระงับธุรกรรมเพียง 3-7 วัน และหากพิสูจน์ว่าไม่ผิด หากต้องการเปิดบัญชีใหม่จะทำได้เฉพาะที่สาขาเท่านั้น
สำหรับการกำหนดมาตรฐานว่า “บัญชีม้าเทา” จะต้องมีลักษณะอย่างไรบ้าง เพื่อให้การดำเนินการของทุกธนาคารเป็นมาตรฐานเดียวกันนั้น ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. กล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์จะแบ่งบัญชีม้าเทาออกเป็น 2 ประเภท คือบัญชีม้าเทาเข้ม กับบัญชีม้าเทาอ่อน ซึ่งการกำหนดมาตรฐานการบัญชีม้าเทาทั้งสองประเภทนี้ ธนาคารพาณิชย์เตรียมจะประกาศรายละเอียดให้ทราบในเร็วๆนี้
อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้น บัญชีม้าเทาเข้ม คือบัญชีที่มีผู้เสียหายไปแจ้งความไว้แล้ว ในส่วนนี้เมื่อธนาคารได้รับทราบจะดำเนินการอย่างเข้มงวดคือระงับทุกบัญชี ทุกธนาคารทันที เหมือนกับบัญชีม้าดำ ส่วนบัญชีม้าเทาอ่อน จะเป็นบัญชีของคนที่ 2 หรือ 3 ที่อาจจะยังไม่ถูกแจ้งความแต่มีความเกี่ยวข้องกับเส้นทางทุจริตจะถูกระงับเฉพาะบัญชีออนไลน์ทั้งหมดก่อน จากนั้นจะต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างเข้มข้น
สำหรับกลุ่มบัญชีม้าดำ หรือบัญชีที่ถูกระงับการทำธุรกรรมจากทุกธนาคาร ทั้งช่องทางสาขาและช่องทางออนไลน์ ข้อมูลสะสมตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 – พฤษภาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 38,000 ราย คิดเป็นจำนวนบัญชี 340,000 กว่าบัญชี ซึ่งกลุ่มนี้จะอยู่ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
โดยกลุ่มนี้ธนาคารสามารถระงับการให้บริการได้ทันทีและจะนำข้อมูลเข้าสู่ระบบกลางทันทีภายใน 1 วัน หากซึ่งเจ้าของบัญชีไม่ใช่มิจฉาชีพตามที่ถูกกล่าวหา จะต้องมาเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อใช้บริการต่อไป โดยระหว่างนี้เจ้าของบัญชีดังกล่าวจะไม่สามารถเปิดบัญชีใหม่กับธนาคารอื่นๆ ได้
- "ธนาคารอาคารสงเคราะห์"ปล่อยกู้สินเชื่อใหม่ 8 หมื่นล้านบาท
- คาดยอดขาย"สมาร์ตโฟน"ปี 2568 โตแผ่ว
- "ธนาคารแห่งประเทศไทย"ชี้งบ 1.57 แสนล้าน ช่วย"เศรษฐกิจ"ปรับตัวได้
- ททท.เขย่าสิทธิ"เที่ยวไทยคนละครึ่ง"ใหม่
- "ไทย"หารือดูไบ ดึงลงทุนทันสมัยหนุน"สตาร์ทอัพ"
- "กระทรวงอุตสาหกรรม"กางแผนใช้งบ 1.57 แสนล้านบาท
- "กยศ."ชะลอหัก"เงินเดือน" 3พันบาทเริ่มมิ.ย.
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand