สรุปข่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลสำรวจซึ่งมีการเผยแพร่ ระบุว่า มีบริษัทสหรัฐฯ เพียง 47% เท่านั้นที่มีมุมมองบวกต่อแนวโน้มการทำธุรกิจในจีนในระยะ 5 ปี ซึ่งลดลง 5% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการออกรายงานธุรกิจจีนประจำปีของ AmCham เซี่ยงไฮ้เป็นครั้งแรกในปี 2542 อีกทั้งจำนวนบริษัทสหรัฐฯ ที่ทำกำไรได้ในปี 2566 มีเพียง 66% ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
อัลลัน กาบอร์ ประธาน AmCham เซี่ยงไฮ้กล่าวว่า แนวโน้มความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงนั้นเป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการรวมกัน
กาบอร์ระบุว่า มันเป็นทั้งอุปสงค์ภายในประเทศ ภาวะเงินฝืด และแน่นอนว่าเราไม่สามารถมองข้ามความรู้สึกและความกังวลของสมาชิกเกี่ยวกับสถานการณ์ทางภูมิศาสตร์การเมืองได้ ขณะเดียวกันสิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนและแผนการดำเนินงานในจีนในแง่ของวิธีการที่เราจะพัฒนาแผนธุรกิจในจีนในอนาคต"
นอกจากนี้ บริษัทสหรัฐฯ ทั้งหมด 306 แห่งที่เข้าร่วมสำรวจนั้นมาจากหลากหลายอุตสาหกรรม โดยภูมิศาสตร์การเมืองยังคงเป็นความท้าทายอันดับหนึ่งสำหรับธุรกิจของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจในจีน ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับอนาคตของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ทั้งนี้ คาดว่าสหรัฐฯ จะตัดสินใจในเร็ว ๆ นี้ เกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นสำหรับสินค้าที่ผลิตในจีน ซึ่งประกาศโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อต้นปีนี้
ที่มา รอยเตอร์
- "ธนาคารอาคารสงเคราะห์"ปล่อยกู้สินเชื่อใหม่ 8 หมื่นล้านบาท
- คาดยอดขาย"สมาร์ตโฟน"ปี 2568 โตแผ่ว
- "ธนาคารแห่งประเทศไทย"ชี้งบ 1.57 แสนล้าน ช่วย"เศรษฐกิจ"ปรับตัวได้
- ททท.เขย่าสิทธิ"เที่ยวไทยคนละครึ่ง"ใหม่
- "ไทย"หารือดูไบ ดึงลงทุนทันสมัยหนุน"สตาร์ทอัพ"
- "กระทรวงอุตสาหกรรม"กางแผนใช้งบ 1.57 แสนล้านบาท
- "กยศ."ชะลอหัก"เงินเดือน" 3พันบาทเริ่มมิ.ย.
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand