เอกชนห่วงเงินบาทผันผวน ส่งออกขาดทุน

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผย ว่า จากสถานการณ์ค่าเงินบาทผันผวนและมีการแข็งค่าเร็วหากดูจากข้อมูลย้อนหลัง 3 เดือนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นถึงร้อยละ 12 ซึ่งถ้าหากเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ ที่เป็นคู่แข่งทางด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าถึงร้อยละ 6 ในขณะที่เวียดนามแข็งค่าร้อยละ 1.4 จีนแข็งค่าร้อยละ 1.1 อินโดนีเซียร้อยละ  2.7

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยในช่วง ที่ผ่านมาสินค้าได้ส่งมอบไปเเล้วถ้าหากไม่ได้ทำเรื่องของการประกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน มีแนวโน้ม ที่จะขาดทุน แต่ถ้ามีการทำประกันเพื่อป้องกันความเสี่ยงไว้แล้วก็อาจจะลดความสูญเสียหรือขาดทุนน้อยลง 

ขณะเดียวกัน ในส่วนที่กำลังจะมีการเจรจาใหม่ เพื่อส่งมอบให้ช่วงต้นปีหน้า ผู้ประกอบการไทย อาจจะสูญเสียเรื่องของขีดความสามารถในการแข่งขันได้ เพราะว่าราคาไม่นิ่ง เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ การขาดทุน เนื่องจากการแลกเปลี่ยนก็จะมีผลต่อเรื่องของสภาพคล่องทางธุรกิจ 

โดยเฉพาะสินค้าภาคการเกษตร ซึ่ง สภาผู้ส่งออกก็เป็นห่วง และมีความกังวลใจอย่างมาก เกี่ยวกับความอ่อนไหวด้านอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นจึงอยากขอร้องให้ทางผู้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยามรักษาสถียรภาพค่าเงินบาทของไทยไม่ให้แข็งค่าไปมากกว่านี้

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการก็จะต้องมีการเตรียมตัวรับมือ ดังต่อไปนี้ 

1. เงินสำรองเพื่อให้สามรรถดำเนินธุรกิจต่อไปได้  

2. แนะนำให้ทำประกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน 

3. สินค้าที่มีการส่งออก โดยเฉพาะส่งออกไปจีน แนะนำใช้เงินหยวนแทนการซื้อขายดอลลาร์ เพราะว่าการส่งออกของประเทศไทย ไปยังประเทศจีน มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 12

ในขณะที่ การใช้ค่าเงินหยวนสำหรับการซื้อขายยังมีเพียงแค่ร้อยละ 1- 2 เท่านั้น จึงอยากชักชวนให้ผู้ส่งออกที่ทำธุรกรรมระหว่างจีนให้พิจารณาเรื่องการใช้ เงินหยวน 

ที่มา Tnn