สรุปข่าว
ราคาหุ้น “ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์” ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีของเกาหลีใต้ ลดลงอยู่แถว 51,700 วอน แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2563 หลังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 4 วัน
นักวิเคราะห์หลายราย ประเมินว่า การลดลงของราคาหุ้นดังกล่าวมาจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของ “โดนัลด์ ทรัมป์”
หุ้นของ “ซัมซุง” ทำผลงานย่ำแย่สุดในปีนี้ เมื่อเทียบในบรรดาผู้ผลิตชิประดับโลก เช่น “ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง” (TSMC) และ “อินวิเดีย” (Nvidia) เนื่องจากตามหลังคู่แข่งในการตอบสนองความต้องการชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาหุ้นซัมซุงลดลงแล้วร้อยละ 34 และมีแนวโน้มจะทำผลงานแย่ที่สุดในรอบกว่า 2 ทศวรรษ ขณะที่ราคาหุ้นของ “SK ไฮนิกซ์” (SK Hynix) พุ่งขึ้นร้อยละ 32 ในปีนี้ และ “อินวิเดีย” ผู้ผลิตชิปของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นร้อยละ 199
“อี มิน ฮี” นักวิเคราะห์จาก BN อินเวสต์เมนต์ แอนด์ ซิเคียวริตี้ส์ มองว่า การที่ “ทรัมป์” เตรียมจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อ “ซัมซุง” ที่พึ่งพาลูกค้าชาวจีนมากกว่า SK ไฮนิกซ์ คู่แข่งร่วมชาติ
ด้าน “เกรก โนห์” นักวิเคราะห์จาก “ฮุนได มอเตอร์ ซิเคียวริตี้ส์” ระบุว่า การที่ “ทรัมป์” ขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศต่าง ๆ ร้อยละ 10 และสินค้าจีนในอัตราร้อยละ 60 จะทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ชิปลดลง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้ ได้แสดงความกังวลว่า การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตราสูงนั้น อาจทำให้คู่แข่งของจีนปรับลดราคาสินค้าส่งออก และตัดราคาบริษัทชิปเกาหลีใต้ที่ดำเนินการในต่างประเทศ
ที่มาข้อมูล : -