เปิด 7 อันดับ "ต่างชาติ" แห่ลงทุนไทยสูงสุดเดือนม.ค.ปี 2568

เปิด 7 อันดับ "ต่างชาติ" แห่ลงทุนไทยสูงสุดเดือนม.ค.ปี 2568

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เปิดเผยว่า เดือนมกราคม 2568 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวน 103 รายเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ร้อยละ 91 

โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 21 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว  จำนวน 82 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 23,160 ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 223



สรุปข่าว

การลงทุนของต่างชาติในไทยส่งสัญญาณบวก เดือนมกราคม 2568 ต่างชาติแห่ลงทุน 23,160 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่ "ญี่ปุ่น" ลงทุนอันดับหนึ่ง 8,880 ล้านบาท

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เปิดเผยว่า เดือนมกราคม 2568 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวน 103 รายเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ร้อยละ 91 

โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 21 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว  จำนวน 82 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 23,160 ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 223



ทั้งนี้ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 7 อันดับแรกของเดือนมกราคม 2568 ได้แก่ 

1. ญี่ปุ่น 21 ราย คิดเป็นร้อยละ 20  เงินลงทุน 8,880 ล้านบาท อาทิ  ธุรกิจบริการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ การเปลี่ยนและทำการเชื่อมต่อท่อส่งใต้ทะเลระหว่างแท่นหลุมผลิตในโครงการขุดเจาะน้ำมัน

2. สหรัฐอเมริกา 14 ราย คิดเป็นร้อยละ 14  เงินลงทุน 971 ล้านบาท อาทิ  ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ได้แก่ อุปกรณ์โทรคมนาคม เครื่องแต่งกาย ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปสำหรับการดูแลและรักษาความปลอดภัยทางระบบคอมพิวเตอร์

3. จีน 10 ราย คิดเป็นร้อยละ 10  เงินลงทุน 3,925 ล้านบาท  อาทิ ธุรกิจบริการอาคารโรงงานพร้อมสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก

4. สิงคโปร์ 10 ราย คิดเป็นร้อยละ 10  เงินลงทุน 2,178 ล้านบาท อาทิ  ธุรกิจบริการติดตั้ง บำรุงรักษา ซ่อมแซม ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า 

5. ฮ่องกง 9 ราย คิดเป็นร้อยละ 9  เงินลงทุน 1,251 ล้านบาท อาทิ การติดตั้งและบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ การให้คำปรึกษาทางเทคนิคในการแก้ไขปัญหาเครื่องจักรระหว่างการใช้งาน เป็นต้น

6. ไต้หวัน 8 ราย คิดเป็นร้อยละ 8 เงินลงทุน 681 ล้านบาท อาทิ ธุรกิจบริการออกแบบ ก่อสร้าง และติดตั้งโครงสร้างเหล็กของอาคารคลังสินค้า

7. เยอรมนี 7 ราย คิดเป็นร้อยละ 7 เงินลงทุน 3,048 ล้านบาท อาทิ ธุรกิจบริการวิจัยและพัฒนาเครื่องปั๊มความร้อน (Heat pump)  ธุรกิจบริการทำการตลาดและส่งเสริมการขายสิ่งทอเทคนิค


  


 

ทั้งนี้ ถือได้ว่าการเข้ามาประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในไทยช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมข้างต้น มีส่วนช่วยในการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย 

เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานการจัดการความปลอดภัยและการประเมินความเสี่ยงในโรงงานอุตสาหกรรม องค์ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการติดตั้งทางวิศวกรรมเกี่ยวกับระบบบำบัดและรีไซเคิลน้ำเสีย 

องค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการท่าเทียบเรือและความปลอดภัยการขนถ่ายสินค้า องค์ความรู้เกี่ยวกับการทำงานของระบบเชื่อมต่อรถยนต์ผ่านเน็ตเวิร์ค เป็นต้น

avatar

TNNThailand