
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า74 ปีแห่งการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ ยึดมั่นในการดูแลและคุ้มครองประชาชนควบคู่กับการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านสุขภาพ คุณภาพชีวิต ศิลปวัฒนธรรม ศาสนา รวมถึงสิ่งแวดล้อม สะท้อนถึงความมุ่งมั่นตามนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง โดยการสนับสนุนในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์เจตนารมณ์ของบริษัทในการร่วมเสริมสร้างระบบสุขภาพไทย ให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง
โดยมอบเงินสนับสนุนแก่ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านโรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาทซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการให้บริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานสูง และเป็นแหล่งวิจัย ฝึกอบรม และเผยแพร่ความรู้ด้านโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนไทยในวงกว้าง
ทั้งนี้โรคหลอดเลือดสมองเป็นภัยเงียบที่เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตผู้ป่วยและครอบครัว ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านโรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จึงมุ่งดูแลผู้ป่วยอย่างครบวงจร โดยทีมสหสาขาวิชา ครอบคลุมทั้งการป้องกัน รักษา ฟื้นฟู ติดตามอาการ และดูแลต่อเนื่องที่บ้าน พร้อมเป็นศูนย์กลางฝึกอบรม วิจัย และเผยแพร่ความรู้สู่สังคม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ลดอัตราการเจ็บป่วยและภาระต่อระบบสาธารณสุขอย่างยั่งยืน
และบริษัทยังมอบเงินสนับสนุนใน“โครงการพัฒนาศูนย์มะเร็งแบบบูรณาการ” โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ซึ่งเป็นโครงการที่มีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศไทยให้ครอบคลุม เข้าถึง และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและยังมอบเงินสนับสนุนโครงการพัฒนาศูนย์ฯ เพิ่มเติมผ่านทางการกิจกรรมการจัดแสดงการเต้นรำระดับโลก “Rhythm Dance by The BYU Ballroom Dance Company” รวมเป็นจำนวนเงิน6,000,000 บาท เพื่อมอบให้แก่“โครงการพัฒนาศูนย์มะเร็งแบบบูรณาการ” โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
สรุปข่าว
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า74 ปีแห่งการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ ยึดมั่นในการดูแลและคุ้มครองประชาชนควบคู่กับการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านสุขภาพ คุณภาพชีวิต ศิลปวัฒนธรรม ศาสนา รวมถึงสิ่งแวดล้อม สะท้อนถึงความมุ่งมั่นตามนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง โดยการสนับสนุนในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์เจตนารมณ์ของบริษัทในการร่วมเสริมสร้างระบบสุขภาพไทย ให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง
โดยมอบเงินสนับสนุนแก่ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านโรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาทซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการให้บริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานสูง และเป็นแหล่งวิจัย ฝึกอบรม และเผยแพร่ความรู้ด้านโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนไทยในวงกว้าง
ทั้งนี้โรคหลอดเลือดสมองเป็นภัยเงียบที่เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตผู้ป่วยและครอบครัว ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านโรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จึงมุ่งดูแลผู้ป่วยอย่างครบวงจร โดยทีมสหสาขาวิชา ครอบคลุมทั้งการป้องกัน รักษา ฟื้นฟู ติดตามอาการ และดูแลต่อเนื่องที่บ้าน พร้อมเป็นศูนย์กลางฝึกอบรม วิจัย และเผยแพร่ความรู้สู่สังคม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ลดอัตราการเจ็บป่วยและภาระต่อระบบสาธารณสุขอย่างยั่งยืน
และบริษัทยังมอบเงินสนับสนุนใน“โครงการพัฒนาศูนย์มะเร็งแบบบูรณาการ” โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ซึ่งเป็นโครงการที่มีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศไทยให้ครอบคลุม เข้าถึง และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและยังมอบเงินสนับสนุนโครงการพัฒนาศูนย์ฯ เพิ่มเติมผ่านทางการกิจกรรมการจัดแสดงการเต้นรำระดับโลก “Rhythm Dance by The BYU Ballroom Dance Company” รวมเป็นจำนวนเงิน6,000,000 บาท เพื่อมอบให้แก่“โครงการพัฒนาศูนย์มะเร็งแบบบูรณาการ” โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
สำหรับ “โครงการพัฒนาศูนย์มะเร็งแบบบูรณาการ” โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพด้านการดูแลรักษาโรคมะเร็งอย่างครบวงจร โดยมีการปรับปรุงอาคารเดิม 4อาคาร ได้แก่ อาคารคัคคณางค์, อาคารนวมินทราชินี, อาคารเอลิซาเบธ และอาคารว่องวานิช ให้เป็นอาคารสูง 9ชั้น เชื่อมต่อกับอาคารนวมินทราชินีซึ่งเป็นอาคารสูง 11ชั้น เพื่อรองรับการให้บริการผู้ป่วยมะเร็งที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด้านการวินิจฉัยและรักษาด้วยเครื่องมือทางรังสีวิทยา ซึ่งต้องจัดหาเครื่องมือใหม่ทดแทนของเดิมที่ใช้งานมานาน
นอกจากนี้บริษัทยังมอบเงินสนับสนุนจากโครงการMTLe-Documentหรือการรับเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อทดแทนการรับเอกสารที่เป็นกระดาษช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจพร้อมเปิดตัวแคมเปญ “Save Paper, Save Life”เชิญชวนลูกค้าทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการรักษ์โลกด้วยการสมัครMTL e-Documentและทุกการสมัครยังจะถูกเปลี่ยนเป็นเงินบริจาคจำนวน 20 บาทต่อ 1กรมธรรม์ที่สมัครสำเร็จ และนำไปบริจาคให้แก่สภากาชาดไทยเพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ
“แคมเปญ “Save Paper, Save Life”นอกจากเป็นการตอกย้ำนโยบายด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ แล้วนั้นยังถือเป็นการฉลองความสำเร็จในการผลักดันนโยบายดังกล่าวจนมียอดลูกค้าสมัครรับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์กว่า 100,000 ราย รวมกว่า 200,000กรมธรรม์ ซึ่งช่วยลดการใช้กระดาษได้มากกว่า 1,700,000แผ่นพร้อมกันนี้จึงได้จัดแคมเปญพิเศษเพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบภัยอยู่ในขณะนี้ ทำให้ลูกค้าที่สมัครMTL e-Documentนอกจากจะได้ช่วยกันลดโลกร้อนแล้วยังได้เป็นส่วนหนึ่งในความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนไปอีกทางหนึ่งด้วยโดยยอดเงินบริจาคจากการกิจกรรมดังกล่าวเป็นจำนวนเงิน 110,000 บาท
ในโอกาสนี้บริษัทได้รับเกียรติจาก นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย รองศาสตราจารย์นายแพทย์ ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย รองศาสตราจารย์พิเศษ แพทย์หญิง อรอุมา ชุติเนตร หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านโรคหลอดเลือดสมอง และ นางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย เป็นผู้รับมอบเงินสนับสนุน รวมทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 16,110,000 บาท
ที่มาข้อมูล : เมืองไทยประกันชีวิต
ที่มารูปภาพ : เมืองไทยประกันชีวิต