สตาร์บัคส์ เตรียมเปิดใช้งานเทคโนโลยีผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ภายในร้านกาแฟจำนวน 35 สาขาทั่วอเมริกาเหนือ ภายในเดือนมิถุนายนนี้ โดยใช้แพลตฟอร์ม Microsoft Azure ร่วมกับ OpenAI ซึ่งมีเป้าหมายหลักเพื่อช่วยลดความซับซ้อนของงานประจำวันของบาริสต้า และเร่งความเร็วในการให้บริการภายในร้าน
ผู้ช่วย AI ดังกล่าวมีชื่อว่า "Green Dot Assist" ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานประชุม Leadership Experience ซึ่งจัดขึ้นในลาสเวกัส โดยมีผู้จัดการร้านมากกว่า 14,000 คนเข้าร่วมงาน สำหรับการเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบในร้านสาขาทั่วสหรัฐอเมริกาและแคนาดา มีกำหนดเริ่มต้นในปีงบประมาณ 2026 ที่จะเริ่มขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ "กลับสู่จิตวิญญาณของสตาร์บัคส์" ซึ่ง Brian Niccol ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ผลักดันอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปีที่ผ่านมา โดยหนึ่งในเป้าหมายหลักคือการลดระยะเวลาให้บริการให้ไม่เกิน 4 นาทีต่อคำสั่งซื้อ
สรุปข่าว
สตาร์บัคส์ เตรียมเปิดใช้งานเทคโนโลยีผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ภายในร้านกาแฟจำนวน 35 สาขาทั่วอเมริกาเหนือ ภายในเดือนมิถุนายนนี้ โดยใช้แพลตฟอร์ม Microsoft Azure ร่วมกับ OpenAI ซึ่งมีเป้าหมายหลักเพื่อช่วยลดความซับซ้อนของงานประจำวันของบาริสต้า และเร่งความเร็วในการให้บริการภายในร้าน
ผู้ช่วย AI ดังกล่าวมีชื่อว่า "Green Dot Assist" ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานประชุม Leadership Experience ซึ่งจัดขึ้นในลาสเวกัส โดยมีผู้จัดการร้านมากกว่า 14,000 คนเข้าร่วมงาน สำหรับการเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบในร้านสาขาทั่วสหรัฐอเมริกาและแคนาดา มีกำหนดเริ่มต้นในปีงบประมาณ 2026 ที่จะเริ่มขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ "กลับสู่จิตวิญญาณของสตาร์บัคส์" ซึ่ง Brian Niccol ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ผลักดันอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปีที่ผ่านมา โดยหนึ่งในเป้าหมายหลักคือการลดระยะเวลาให้บริการให้ไม่เกิน 4 นาทีต่อคำสั่งซื้อ
Deb Hall Lefevre ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของสตาร์บัคส์ ระบุว่า Green Dot Assist เป็นตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการทำงานของพนักงาน โดยจะช่วยให้บาริสต้าสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นวิธีการชงเมนูเครื่องดื่ม หรือการแก้ไขปัญหาเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในร้าน ทั้งยังสามารถสื่อสารกับระบบได้ทั้งแบบพิมพ์ข้อความและเสียงพูดในภาษาธรรมชาติ
ในอนาคต เทคโนโลยีดังกล่าวอาจได้รับการพัฒนาให้สามารถแจ้งซ่อมอุปกรณ์อัตโนมัติ หรือแม้กระทั่งเสนอชื่อพนักงานแทนเมื่อมีผู้ลาออกกะกะทันหัน
ความร่วมมือครั้งใหม่นี้ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างสตาร์บัคส์และไมโครซอฟท์ แม้ว่า Satya Nadella ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไมโครซอฟท์ จะลาออกจากตำแหน่งกรรมการของบริษัทสตาร์บัคส์เมื่อปีที่ผ่านมา
ในช่วงหลังจากการเปิดตัว ChatGPT เมื่อปลายปี 2022 หลายองค์กรเริ่มหันมาใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน รวมถึงยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจอย่าง Walmart และ JPMorgan Chase อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี AI ยังมีข้อจำกัด โดยเฉพาะปัญหา “ข้อมูลผิดพลาด” หรือ hallucinations ซึ่งทางสตาร์บัคส์ระบุว่าได้ร่วมกับไมโครซอฟท์พัฒนาเครื่องมือควบคุมความแม่นยำของข้อมูลเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ
ในวงการร้านอาหาร บริษัทอื่น ๆ ก็เริ่มนำ AI มาใช้อย่างแพร่หลาย เช่น Yum Brands ที่จับมือกับ Nvidia เพื่อพัฒนาระบบการสั่งอาหารอัตโนมัติ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพร้านอาหาร แต่ความร่วมมือในลักษณะนี้ไม่ได้ประสบความสำเร็จเสมอไป โดย McDonald’s เพิ่งยุติโครงการ AI Drive-thru ที่ร่วมกับ IBM หลังไม่สามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมาย
ภายในงาน Leadership Experience ยังมีการสาธิตเทคโนโลยีใหม่อื่น ๆ เช่น เครื่องชงกาแฟ Mastrena รุ่นล่าสุด และระบบ POS ที่ออกแบบใหม่ให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น บาริสต้าที่มีประสบการณ์สามารถเรียนรู้ระบบใหม่ได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
ระบบใหม่นี้ยังสามารถจดจำคำสั่งซื้อของลูกค้า และแนะนำเมนูโปรดได้อย่างแม่นยำ ช่วยเพิ่มความรู้สึกส่วนตัวในการให้บริการ ซึ่งเป็นสิ่งที่สตาร์บัคส์ต้องการนำกลับคืนมาสู่ร้านของตนทั่วโลก
ที่มาข้อมูล : https://www.cnbc.com/2025/06/10/starbucks-to-roll-out-microsoft-azure-openai-assistant-for-baristas.html
ที่มารูปภาพ : -