
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยในงานมหกรรมการลงทุนแห่งปี SET in the City 2025 ว่า ยอมรับว่าภาวะตลาดและปัจจัยภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อต่อการลงทุนเริ่มส่งผลกระทบต่อการเสนอขายหุ้นครั้งแรกของบริษัทให้กับสาธารณะชน (IPO) โดยพบว่ามีบริษัทที่ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้วแต่ก็เลื่อนการระดมทุนออกไปถ้ายังไม่ต้องการลงทุนจริงๆ
"ในส่วนของการ IPO ถ้าตอบตรงๆ ถือว่าชะลอลง มีหลายบริษัทที่ทำไฟลิ่งไปแล้วแต่ก็ชะลอไว้ก่อน เนื่องจากสภาวะตลาดที่ผันผวนมากๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเข้าใจ เพราะตลาดเชื่อมโยงกับภาวะเศรษฐกิจและมีความผันผวนมากๆ ทำให้ทางบริษัทหรือบริษัทจดทะเบียนที่ไม่มีความต้องการลงทุนจริงๆ เขาก็ชะลอไปก่อนได้ แต่ ณ วันนี้ที่เห็นมีเข้ามาจดทะเบียนในปีนี้อยู่ ก็มีทางด้าน mai ส่วนทางตลาดหลักทรัพย์ที่เราเห็น SET มีการชะลอตัว" นายอัสสเดช กล่าว
สรุปข่าว
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยในงานมหกรรมการลงทุนแห่งปี SET in the City 2025 ว่า ยอมรับว่าภาวะตลาดและปัจจัยภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อต่อการลงทุนเริ่มส่งผลกระทบต่อการเสนอขายหุ้นครั้งแรกของบริษัทให้กับสาธารณะชน (IPO) โดยพบว่ามีบริษัทที่ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้วแต่ก็เลื่อนการระดมทุนออกไปถ้ายังไม่ต้องการลงทุนจริงๆ
"ในส่วนของการ IPO ถ้าตอบตรงๆ ถือว่าชะลอลง มีหลายบริษัทที่ทำไฟลิ่งไปแล้วแต่ก็ชะลอไว้ก่อน เนื่องจากสภาวะตลาดที่ผันผวนมากๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเข้าใจ เพราะตลาดเชื่อมโยงกับภาวะเศรษฐกิจและมีความผันผวนมากๆ ทำให้ทางบริษัทหรือบริษัทจดทะเบียนที่ไม่มีความต้องการลงทุนจริงๆ เขาก็ชะลอไปก่อนได้ แต่ ณ วันนี้ที่เห็นมีเข้ามาจดทะเบียนในปีนี้อยู่ ก็มีทางด้าน mai ส่วนทางตลาดหลักทรัพย์ที่เราเห็น SET มีการชะลอตัว" นายอัสสเดช กล่าว
ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า แนวคิดของกาจัดงาน "SET in the City 2025 อัปสกิลให้แกร่ง รับการเปลี่ยนแปลงของโลกการลงทุน" มาจากวัตถุประสงค์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้ประกอบการในตลาดทุน ต้องการสร้างโอกาสให้กับนักลงทุนในภาวะที่ตลาดมีความผันผวนไม่เอื้อต่อการลงทุน ดังนั้น จึงเน้นไปที่่การหาผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆ มาเป็นทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกในออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อการกระจายความเสี่ยง ผ่านตลาดหลักทรัพยฯได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะ ตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt : DR) ที่เป็นเครื่องมือที่นักลงทุนนิยมมากขึ้น รวมไปถึงการเพิ่มความรู้ความสามารถในการลงทุน เครื่องมือที่ครบถ้วนเพื่อรับมือกับตลาดทั้งขาขึ้นและขาลง มีการเพิ่มเทคโนโลยีในการลงทุน ให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ ในครึ่งหลังของปี 2568 นี้ นักลงทุนยังต้องเตรียมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน มีความไม่แน่นอนจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะสงครามการค้า และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังไม่แน่นอน โดยตลาดหลักทรัพยฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทำให้มีความพร้อมถ้าจำเป็นต้องออกมาตรการชั่วคราวมาดูแลตลาด
อย่างไรก็ดี สำหรับปัจจัยบวกที่จะมาหนุนไม่ให้ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงมากยังพอมี โดยเชื่อว่าเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน ThaiESGX ที่จะเงินใหม่และการโยกจากกองทุน LTF จะมีส่วนช่วยพยุงดัชนีหุ้นไทยในครึ่งหลังเดือนมิ.ย. 2568 นี้ได้ ซึ่งมูลค่าเงินลงทุนในกองทุน LTF ล่าสุดที่ยังไม่โยกหรือถอนการลงทุนออกยังคงเหลืออยู่ปัจจุบันประมาณกว่า 1 แสนล้านบาท บวกกับตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังจะมีแถลงโครงการ Jump+ ในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ ,การเจรจาภาษีการค้าที่จะคลี่คลาย หากไทยได้ดีลที่ดี ซึ่งไทยได้คิวเข้าเจรจาแล้วอาจจะมีข่าวดี และผลบวกจาการที่จีนและสหรัฐฯ ตกลงกันได้น่าจะหนุนบรรยากาศทางเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ ส่วนผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาในขณะนี้พบว่ามีผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนน้อยมาก แม้มูลค่าอาจจะสูงกว่าที่เกิดขึ้นในเมียนมาก็ตาม
ที่มาข้อมูล : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ที่มารูปภาพ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย