นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง จะพิจารณาคำขอโครงการที่เสนอเข้ามาใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนที่เหลืออีก 4 หมื่นล้านบาท จากที่ใช้ไปแล้ว 1.15 แสนล้านบาท โดยมีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาคำขอโครงการจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งที่ผ่านมามีตัวเลขเรื่องงบที่คลาดเคลื่อน ทั้งจากสำนักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รวมถึงพิจารณามาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากภาษีทรัมป์ด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุมวันนี้จะนำความเห็นจาก สสค. ซึ่งได้นำหลักเกณฑ์ที่ได้เห็นชอบไปพิจารณามาแล้วว่า โครงการนั้นจะมีความเหมาะสมหรือไม่ โดยจะดูในเรื่องความซ้ำซ้อนหรือตัวเลขงบที่ไม่ตรงกัน การกระจุกตัวของการใช้งบประมาณ ตลอดจนผลที่จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ส่วนมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากภาษีทรัมป์ ก็จะพิจารณาโดยเน้นดูด้านระยะยาว เพื่อนำไปใช้ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบและการพัฒนาทุนมนุษย์ไม่ได้มีแค่เรื่องระยะสั้นเพียงอย่างเดียว”
สรุปข่าว
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง จะพิจารณาคำขอโครงการที่เสนอเข้ามาใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนที่เหลืออีก 4 หมื่นล้านบาท จากที่ใช้ไปแล้ว 1.15 แสนล้านบาท โดยมีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาคำขอโครงการจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งที่ผ่านมามีตัวเลขเรื่องงบที่คลาดเคลื่อน ทั้งจากสำนักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รวมถึงพิจารณามาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากภาษีทรัมป์ด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุมวันนี้จะนำความเห็นจาก สสค. ซึ่งได้นำหลักเกณฑ์ที่ได้เห็นชอบไปพิจารณามาแล้วว่า โครงการนั้นจะมีความเหมาะสมหรือไม่ โดยจะดูในเรื่องความซ้ำซ้อนหรือตัวเลขงบที่ไม่ตรงกัน การกระจุกตัวของการใช้งบประมาณ ตลอดจนผลที่จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ส่วนมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากภาษีทรัมป์ ก็จะพิจารณาโดยเน้นดูด้านระยะยาว เพื่อนำไปใช้ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบและการพัฒนาทุนมนุษย์ไม่ได้มีแค่เรื่องระยะสั้นเพียงอย่างเดียว”
นอกจากนี้ หากที่ประชุมหาข้อสรุปได้ จะต้องมีการนำเสนอให้คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ พรุ่งนี้ และ ครม.เห็นชอบต่อไป เพราะการจัดทำงบกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้จะต้องอนุมัติโครงการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ และคาดจะมีเม็ดเงินลงกระตุ้นในระบบได้ทั้งช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อจีดีพีได้ประมาณ 0.4-0.5%
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ผ่านมา อปท. ทั่วประเทศ มีการยื่นคำขอวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน 3 ช่องทางทะลุกรอบงบฯ ที่ตั้งไว้ โดยคำขอที่ยื่นผ่านกระทรวงมหาดไทย สูงถึง 6 หมื่นล้านบาท ยังไม่นับรวมช่องทางอื่น ขณะที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ได้รับข้อเสนอโครงการจาก อปท. ทั่วประเทศรวมกว่า 27,000 โครงการ วงเงินรวมทะลุ 1.6 แสนล้านบาท จึงต้องคัดเลือกเหลือเพียงกว่า 4,800 โครงการ 34,690 ล้านบาท เพื่อเข้าสู่กระบวนการอนุมัติในขั้นต่อไป
- ตลาดรถมือสอง ครึ่งปีแรกยอดขายลดร้อยละ 10
- ยอดขาย “Green Bonds” ทั่วโลกร่วงร้อยละ 32
- "ไต้หวัน"ดัน 10 โครงการ "AI" มุ่งสู่ผู้นำโลก
- อสังหาฯมั่นใจการทำงานผู้ว่าธปท.คนใหม่
- 'อมรเทพ' แนะผู้ว่าฯธปท.คนใหม่ ลงจากหอคอย สู่ท้องทุ่ง
- "AstraZeneca" ทุ่ม 5 หมื่นล้านดอลล์ ขยายฐานการผลิตที่สหรัฐฯ
- EU เตรียมงัด "ACI" เปิดหน้าสู้ โต้คำขู่ภาษีทรัมป์
