"สินค้าเวียดนาม" แทนที่ไทยในตลาดกัมพูชา

สำนักข่าวกัมพูชา Khmer Times & News Today รายงานว่า เวียดนามกำลังหาโอกาสทางการตลาดในกัมพูชามากขึ้น หลังจากการค้าชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาหยุดชะงักลงอันเนื่องมาจากความตึงเครียดที่เกิดขึ้น พบว่า บริษัทเวียดนามหลายบริษัทกำลังศึกษาช่องทางธุรกิจกับผู้ค้าปลีกในกรุงพนมเปญโดยตรง

ผู้จัดการร้านค้าปลีกชั้นนำของกัมพูชาแห่งหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวในประเทศว่า  ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ สินค้าแบรนด์เวียดนาม สามารถขยายส่วนแบ่งตลาดในกัมพูชาได้มากขึ้น โดยเฉพาะในหมวดสินค้า บิสกิต นม ช็อกโกแลต และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 

แม้ว่าจะมีสินค้าจากมาเลเซียเข้ามาแข่งขัน แต่สินค้าแบรนด์ของเวียดนามกลับตอบสนองความต้องการของตลาดได้ดีกว่า ตัวอย่างเช่น Dalat Milk ซึ่งปัจจุบันเข้ามาแทนผลิตภัณฑ์นมจากประเทศไทย เนื่องจากกัมพูชามีพรมแดนติดกับสามประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว และเวียดนาม 

เมื่อการค้าขายกับประเทศไทยหยุดชะงัก และประเทศลาวยังไม่มีศักยภาพเพียงพอในการส่งออก จึงทำให้ประเทศเวียดนามกลายเป็นประเทศที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดกัมพูชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนเจ้าของร้านค้าในตลาดการค้าแบบดั้งเดิม  ให้ข้อมูลว่า การส่งมอบสินค้าจากประเทศเวียดนามสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ซูเปอร์มาร์เก็ตในกรุงพนมเปญสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะตื่นตระหนกจากการปิดด่านทางบกระหว่างไทย-กัมพูชา 

สรุปข่าว

สินค้าไทยโดยเฉพาะที่ขายในซุเปอร์มาร์เก็ตในตลาดกัมพูชาเคยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 25 หลังจากมีปัญหาสู้รบ ทำให้สินค้าจากเวียดนาม เข้ามาทำตลาดมากขึ้น ผู้ค้าในกัมพูชาสั่งซื้อสินค้าจากเวียดนามมาขายมากขึ้น เพราะมีชายแดนติดต่อกัน ทำให้สามารถขนส่งได้ง่าย

สำนักข่าวกัมพูชา Khmer Times & News Today รายงานว่า เวียดนามกำลังหาโอกาสทางการตลาดในกัมพูชามากขึ้น หลังจากการค้าชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาหยุดชะงักลงอันเนื่องมาจากความตึงเครียดที่เกิดขึ้น พบว่า บริษัทเวียดนามหลายบริษัทกำลังศึกษาช่องทางธุรกิจกับผู้ค้าปลีกในกรุงพนมเปญโดยตรง

ผู้จัดการร้านค้าปลีกชั้นนำของกัมพูชาแห่งหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวในประเทศว่า  ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ สินค้าแบรนด์เวียดนาม สามารถขยายส่วนแบ่งตลาดในกัมพูชาได้มากขึ้น โดยเฉพาะในหมวดสินค้า บิสกิต นม ช็อกโกแลต และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 

แม้ว่าจะมีสินค้าจากมาเลเซียเข้ามาแข่งขัน แต่สินค้าแบรนด์ของเวียดนามกลับตอบสนองความต้องการของตลาดได้ดีกว่า ตัวอย่างเช่น Dalat Milk ซึ่งปัจจุบันเข้ามาแทนผลิตภัณฑ์นมจากประเทศไทย เนื่องจากกัมพูชามีพรมแดนติดกับสามประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว และเวียดนาม 

เมื่อการค้าขายกับประเทศไทยหยุดชะงัก และประเทศลาวยังไม่มีศักยภาพเพียงพอในการส่งออก จึงทำให้ประเทศเวียดนามกลายเป็นประเทศที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดกัมพูชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนเจ้าของร้านค้าในตลาดการค้าแบบดั้งเดิม  ให้ข้อมูลว่า การส่งมอบสินค้าจากประเทศเวียดนามสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ซูเปอร์มาร์เก็ตในกรุงพนมเปญสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะตื่นตระหนกจากการปิดด่านทางบกระหว่างไทย-กัมพูชา 

ที่ผ่านมา สินค้าไทยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณร้อยละ 25 ของยอดขายรวม และสินค้าไทยส่วนใหญ่เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคกัมพูชา 

แต่เมื่อเกิดความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา สินค้าจากเวียดนามสามารถเข้ามาแทนได้อย่างทันที และทางร้านค้าในกัมพูชามีแผนสั่งซื้อสินค้าแบรนด์ของเวียดนามเพิ่มเติมเข้ามาจำหน่ายในกัมพูชามากขึ้น


สินค้าหมวดอาหารแปรรูปของเวียดนาม เช่น Vifon, Acecook และ Vi Huong มีขายอยู่ในตลาดค้าปลีกอาหารแปรรูปของกัมพูชา 

นอกจากนี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ของเวียดนามหลายบริษัท เช่น Viettel (โทรคมนาคม) BIDV (ธนาคาร) Hoang Anh Gia Lai (เกษตรอุตสาหกรรม) และ Vietnam Rubber Group ต่างก็ได้ตั้งฐานธุรกิจในกัมพูชาแล้ว เช่นกัน

ถือเป็นการแข่งขันและความท้าทายเกิดขึ้น และเปลี่ยนแปลงได้ตลอด อยู่ที่ว่าใครจะแสดงหาโอกาสได้มากกกว่ากัน