กรมศุลกากร เผยลดภาษีสหรัฐฯ หมื่นรายการ ทำสูญรายได้ 8,000 ล้านบาท

กรมศุลกากร เผยลดภาษีสหรัฐฯ หมื่นรายการ ทำสูญรายได้ 8,000 ล้านบาท

นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยความคืบหน้าการปรับลดภาษีนำเข้าตามข้อตกลงภาษีทรัมป์ ว่า ขณะนี้ไทยและ สหรัฐ กำลังอยู่ระหว่างเจรจาลงรายละเอียด หากหาข้อยุติจนสามารถลงนามความตกลงความร่วมมือด้านภาษีร่วมกันได้ 




สรุปข่าว

กรมศุลกากร ลุยแก้กฎหมาย ลดภาษีนำเข้าให้สหรัฐฯ 10,000 รายการ คาดเริ่มใช้สิ้นปี 2568 มองไทยอาจสูญรายได้ 8,000 ล้านบาท

นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยความคืบหน้าการปรับลดภาษีนำเข้าตามข้อตกลงภาษีทรัมป์ ว่า ขณะนี้ไทยและ สหรัฐ กำลังอยู่ระหว่างเจรจาลงรายละเอียด หากหาข้อยุติจนสามารถลงนามความตกลงความร่วมมือด้านภาษีร่วมกันได้ 




และผ่านการพิจารณาจากสภาแล้ว กรมศุลกากร จะต้องมีการแก้กฎหมาย เพื่อปรับลดภาษีนำเข้าให้กับสหรัฐอเมริกากว่า 10,000 รายการ ให้จบภายใน 90 วัน

      

ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่ากระบวนทั้งหมดจะได้ข้อสรุป และเริ่มมีผลบังคับใช้การลดภาษีได้ภายในปี 68 นี้ พร้อมกับประเมินว่า หากมีการปรับลดภาษี 10, 000 รายการ จะทำให้ปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลจะสูญเสียรายได้จากการลดภาษีดังกล่าว 8,000 ล้านบาท จากปัจจุบันกรมศุลกากรจัดเก็บรายได้ภาษีนำเข้าจากสหรัฐ เฉลี่ยปีละ 2 หมื่นล้านบาท จะเหลืออยู่ 12,000 ล้านบาท

       

ทั้งนี้ การลดภาษีนำเข้าให้สหรัฐ คาดสูญเสียรายได้เกือบครึ่ง ของการจัดเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐ ที่เฉลี่ยปีละ 20, 000 ล้านบาท โดยสินค้าที่ไทยมีรายได้จากภาษีนำเข้าสหรัฐส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าประเภทเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ความงาม รวมถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม

        

ส่วนเงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้ชิ้นส่วนในการผลิตในประเทศ หรือ โลคอล คอนเทนต์ นั้น ปัจจุบันไทยและสหรัฐใช้สัดส่วนที่ร้อยละ 40 อย่างไรก็ตาม คาดว่าสหรัฐจะเสนอปรับเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนร้อยละ 50 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาอยู่ยังไม่ได้ข้อสรุป 


แต่มั่นใจว่า ผู้ประกอบการจะสามารถปรับตัวได้ เพราะที่ผ่านมาได้มีการประสานผู้ผลิตให้เตรียมตัวรับมือเพิ่มสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศเพิ่มขึ้นแล้ว ซึ่งสุดท้ายเชื่อว่าจะเป็นผลดีระยะยาวต่อผู้ผลิต และเศรษฐกิจประเทศในระยะยาว

         



ด้านการเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบสินค้าสวมสิทธิ และสินค้าผ่านแดนนั้น ตอนนี้กรมศุลฯ ได้มีการประสานความร่วมมือกับกรมการค้าต่างประเทศ ในการตรวจสอบสินค้ากลุ่มเสี่ยงกว่า 80 รายการ 


ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้ออกใบอนุญาตรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าให้กับผู้ผลิต และกรมศุลกากร จะเป็นหน่วยงานสุ่มตรวจสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มที่นำเข้าและส่งออกอย่างรวดเร็ว ตลอดจนสินค้าที่มีการกำกับว่า เมด อิน ไทยแลนด์ เพื่อไม่ให้มีการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าไทย เพื่อเลี่ยงใช้ภาษีต่ำไปสหรัฐอเมริกา

ที่มาข้อมูล : กรมศุลกากร

ที่มารูปภาพ : TNN