สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ศาลภูมิภาคแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี มีคำตัดสินเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่าบริษัท Apple ไม่สามารถโฆษณาผลิตภัณฑ์ Apple Watch ในฐานะ CO₂-neutral product หรือ ผลิตภัณฑ์คาร์บอนเป็นศูนย์ ได้อีกต่อไป หลังมีการร้องเรียนจากกลุ่มสิ่งแวดล้อม Deutsche Umwelthilfe (DUH) ที่ระบุว่าคำกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนและละเมิดกฎหมายการแข่งขันทางการค้า
Apple เคยโปรโมต Apple Watch ผ่านช่องทางออนไลน์ว่าเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ปลอดคาร์บอน แต่คณะผู้พิพากษาเห็นว่าข้อความดังกล่าวไม่สามารถยืนยันได้จริง และเป็นการชี้นำที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด
ทั้งนี้ Apple ชี้แจงต่อศาลว่า บริษัทได้ดำเนินโครงการชดเชยคาร์บอนในประเทศปารากวัย ด้วยการปลูกต้นยูคาลิปตัสบนพื้นที่เช่าเพื่อดูดซับก๊าซเรือนกระจก แต่โครงการดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากเป็นการปลูกพืชเชิงเดี่ยวที่กระทบความหลากหลายทางชีวภาพ และใช้น้ำปริมาณสูง จนถูกขนานนามว่าเป็น "ทะเลทรายสีเขียว"
สรุปข่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ศาลภูมิภาคแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี มีคำตัดสินเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่าบริษัท Apple ไม่สามารถโฆษณาผลิตภัณฑ์ Apple Watch ในฐานะ CO₂-neutral product หรือ ผลิตภัณฑ์คาร์บอนเป็นศูนย์ ได้อีกต่อไป หลังมีการร้องเรียนจากกลุ่มสิ่งแวดล้อม Deutsche Umwelthilfe (DUH) ที่ระบุว่าคำกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนและละเมิดกฎหมายการแข่งขันทางการค้า
Apple เคยโปรโมต Apple Watch ผ่านช่องทางออนไลน์ว่าเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ปลอดคาร์บอน แต่คณะผู้พิพากษาเห็นว่าข้อความดังกล่าวไม่สามารถยืนยันได้จริง และเป็นการชี้นำที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด
ทั้งนี้ Apple ชี้แจงต่อศาลว่า บริษัทได้ดำเนินโครงการชดเชยคาร์บอนในประเทศปารากวัย ด้วยการปลูกต้นยูคาลิปตัสบนพื้นที่เช่าเพื่อดูดซับก๊าซเรือนกระจก แต่โครงการดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากเป็นการปลูกพืชเชิงเดี่ยวที่กระทบความหลากหลายทางชีวภาพ และใช้น้ำปริมาณสูง จนถูกขนานนามว่าเป็น "ทะเลทรายสีเขียว"
ศาลยังตั้งข้อสังเกตว่า พื้นที่ราว ร้อยละ 75 ของโครงการปลูกป่าในปารากวัยนั้นมีสัญญาเช่าไม่เกินปี ค.ศ. 2029 และไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีการต่ออายุในอนาคต ส่งผลให้ความต่อเนื่องของโครงการขาดความมั่นคง จึงไม่อาจใช้เป็นหลักฐานเพียงพอในการอ้างว่า Apple Watch ปลอดคาร์บอน
แม้ทาง Apple จะระบุว่าคำตัดสินครั้งนี้ยังสะท้อนถึงความพยายามจริงจังของบริษัทในการดำเนินกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม แต่ก็หลีกเลี่ยงที่จะยืนยันว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่
ขณะที่สื่อยุโรปรายงานว่า Apple มีแผนจะยกเลิกการใช้ฉลาก "Carbon Neutral" กับ Apple Watch ภายในปี ค.ศ. 2026 เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรป ที่จำกัดการใช้ถ้อยคำด้านสิ่งแวดล้อมในเชิงการตลาด
ในขณะเดียวกัน บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่น ๆ เช่น Meta และ Microsoft ก็มีการลงทุนในโครงการปลูกป่าและซื้อคาร์บอนเครดิตในลาตินอเมริกาเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม คดีนี้นับเป็นหมุดหมายสำคัญที่กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมองว่า เป็นชัยชนะในการต่อต้าน "Greenwashing" หรือการสร้างภาพด้านสิ่งแวดล้อมโดยปราศจากหลักฐานรองรับ
คำพิพากษาของศาลแฟรงก์เฟิร์ตจึงไม่เพียงสะเทือนต่อแบรนด์ Apple แต่ยังส่งสัญญาณไปยังบรรดาบริษัทข้ามชาติทั้งหมด ว่าการสื่อสารด้านสิ่งแวดล้อมต้องตั้งอยู่บนข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบได้ ไม่ใช่เพียงกลยุทธ์ทางการตลาด
- "เครือสหพัฒน์" ทุ่ม 1,000 ล้านบาท เปิดคอมมูนิตี้มอลล์ KINGSQUARE
- ลือ ! “Apple” เตรียมเปิดตัว “หุ่นยนต์โคมไฟ” และ Siri ใหม่ ลุยตลาดปัญญาประดิษฐ์
- Apple Watch รุ่นใหม่วัดค่า Blood Oxygen ออกซิเจนในเลือดได้แม่นยำกว่าเดิม
- Apple ทดสอบ Siri เวอร์ชันใหม่ เปลี่ยนวิธีการใช้ iPhone ใหม่ด้วยเสียง AI
- ทรู ดิจิทัล พาร์ค จับมือ Mackcha Studio เปิดอีเวนต์ศิลปะดิจิทัล "The Imaginary Wood"
