พรรคภูมิใจไทย เข้ามาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล “เรื่องกัญชา” จึงถูกจับตามองอีกครั้ง
“กัญชาเสรี” เป็นนโยบายเศรษฐกิจเด่น ของพรรคภูมิใจไทย ก่อนหน้านี้ พรรคภูมิใจไทยได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ โดยมีนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น คือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นโยบายกัญชาเสรี ของพรรคภูมิใจไทยถูกผลักดันเต็มที่ และถูกถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดเพื่อให้สมกับคำว่า “เสรี” ไปเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 โดยมี “อนุทิน ชาญวีรกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสมัยนั้น” การเปิดเสรีเริ่มต้นด้วยการส่งเสริมการปลูกบ้านละ 5 ต้น หลังจากนั้นเปิดให้มีการปลูก และการนำไปใช้อย่างกว้างขวาง มีการส่งเสริมนำไปเป็นส่วนผสมของสินค้าอุปโภคบริโภค มีร้านค้าขายกัญชาเกิดขึ้นมานับหมื่นแห่ง
แต่การเปิดเสรี เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ทั้งการใช้ผิดประเภท เยาวชนเข้าลอง มีผลกระทบทางด้านสังคม เพราะยังไม่มีกฎหมายควบคุมเป็นการเฉพาะ หลังจากนั้นมีการนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดอีกครั้ง ในรัฐบาลเพื่อไทย เมื่อเดือนมิถุนายน 2568 โดยออกเป็นประกาศของกระทรวงสาธารณสุขอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น
ส่วนร่างพ.ร.บ.กัญชา- กัญชง ออกมาควบคุม ดูแล ยังผลักดันล่าสุด ผลักดันมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลังประชารัฐ พอเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนรัฐมนตรี ปรับแก้กันหลายรอบ ทำถึงล่าสุดยังไม่สามารถนำเข้าเสนอเข้าสู่สภาฯ เพื่อผลักดันเป็นกฎหมายบังคับใช้ได้ เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ กฎหมายนี้ต้องรอเสนอรัฐบาลใหม่ว่าจะดำเนินการอย่างไร
รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของพรรคภูมิใจไทยมีพรรคร่วมคือ พรรคพลังประชารัฐ ทำให้เกิดคำถามว่า นโยบายกัญชาจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร แม้พรรคภูมิใจไทยจะไม่ได้คุมกระทรวงสาธารณสุขเหมือนเหมือนช่วงเปิดเสรีกัญชา แต่พรรคพลังประชารัฐ เคยเป็นพันธมิตรในการถอดกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติด ได้โควต้าในการคุมกระทรวงสาธารณสุข
สรุปข่าว
พรรคภูมิใจไทย เข้ามาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล “เรื่องกัญชา” จึงถูกจับตามองอีกครั้ง
“กัญชาเสรี” เป็นนโยบายเศรษฐกิจเด่น ของพรรคภูมิใจไทย ก่อนหน้านี้ พรรคภูมิใจไทยได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ โดยมีนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น คือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นโยบายกัญชาเสรี ของพรรคภูมิใจไทยถูกผลักดันเต็มที่ และถูกถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดเพื่อให้สมกับคำว่า “เสรี” ไปเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 โดยมี “อนุทิน ชาญวีรกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสมัยนั้น” การเปิดเสรีเริ่มต้นด้วยการส่งเสริมการปลูกบ้านละ 5 ต้น หลังจากนั้นเปิดให้มีการปลูก และการนำไปใช้อย่างกว้างขวาง มีการส่งเสริมนำไปเป็นส่วนผสมของสินค้าอุปโภคบริโภค มีร้านค้าขายกัญชาเกิดขึ้นมานับหมื่นแห่ง
แต่การเปิดเสรี เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ทั้งการใช้ผิดประเภท เยาวชนเข้าลอง มีผลกระทบทางด้านสังคม เพราะยังไม่มีกฎหมายควบคุมเป็นการเฉพาะ หลังจากนั้นมีการนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดอีกครั้ง ในรัฐบาลเพื่อไทย เมื่อเดือนมิถุนายน 2568 โดยออกเป็นประกาศของกระทรวงสาธารณสุขอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น
ส่วนร่างพ.ร.บ.กัญชา- กัญชง ออกมาควบคุม ดูแล ยังผลักดันล่าสุด ผลักดันมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลังประชารัฐ พอเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนรัฐมนตรี ปรับแก้กันหลายรอบ ทำถึงล่าสุดยังไม่สามารถนำเข้าเสนอเข้าสู่สภาฯ เพื่อผลักดันเป็นกฎหมายบังคับใช้ได้ เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ กฎหมายนี้ต้องรอเสนอรัฐบาลใหม่ว่าจะดำเนินการอย่างไร
รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของพรรคภูมิใจไทยมีพรรคร่วมคือ พรรคพลังประชารัฐ ทำให้เกิดคำถามว่า นโยบายกัญชาจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร แม้พรรคภูมิใจไทยจะไม่ได้คุมกระทรวงสาธารณสุขเหมือนเหมือนช่วงเปิดเสรีกัญชา แต่พรรคพลังประชารัฐ เคยเป็นพันธมิตรในการถอดกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติด ได้โควต้าในการคุมกระทรวงสาธารณสุข
หลังจากกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด ต้องมีการกวดขัน ควบคุม จับกุมร้านค้าที่ขายกัญชาเปิดกับไปก่อนหน้านี้ เพราะถือว่าผิดกฎหมาย
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่เป็นหน่วยงานในการควบคุมดูแล รายงาน ผลการดำเนินงานจับกุมในช่วง 1 เดือนหลังประกาศกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดว่า จากร้านค้ากัญชาทั่วประเทศจำนวน 18,763 แห่งทั่วประเทศ ได้มีการเข้าไปตรวจสอบแล้ว 5,218 แห่ง
พบว่าผิดกฎหมายและมีบทลงโทษ แบ่งเป็น พักใช้ใบอนุญาต 724 ราย เพิกถอนใบอนุญาต 129 ราย ดำเนินคดี ผู้จำหน่ายโดยไม่มีใบอนุญาต 180 ราย และ ปิดกิจการ 1,079 ราย
นอกจากนี้ยังมีการตรวจ ยึด อายัดของต้องสงสัย ช่อดอกกัญชา 116 ราย จับกุมผู้กระทำความผิดลักลอบนำกัญชา ออกนอกราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง จำนวน 33 ราย น้ำหนักของกลางกว่า 980 กิโลกรัม กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รายงานว่า ได้รับเรื่องร้องเรียน ตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน จำนวน 176 เรื่อง ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายโดยไม่มีใบอนุญาต 68 เรื่อง การสูบในร้าน 25 เรื่อง การจำหน่ายให้เยาวชน 15 เรื่อง หาบเร่/แผงลอย 11 เรื่อง ขายออนไลน์ 11 เรื่อง โฆษณา 10 เรื่อง เหตุรำคาญ 14 เรื่อง และ การตรวจสอบการได้รับอนุญาต 22 เรื่อง
ฝ่ายข้าราชการ พยายามดำเนินการเชิงรุก พยายามออกตรวจพื้นที่ทุกอาทิตย์ เช่น ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและ จังหวัดนนทบุรี ร่วมมือกับสถานีตำรวจนครบาลพญาไท สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม สถานีตำรวจนครบาลแสมดำ และ สถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี จากผลการตรวจสอบ พบร้านค้าทำผิดกฎหมายทุกครั้งที่ออกตรวจ
ขอความร่วมมือหากพบร้านใดยังเปิดขายอย่างผิดกำหมาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โทร. 0-2591-7007 หรือเว็บไซต์ ของกรมกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลื
สำหรับการควบคุมกัญชาเป็นยาเสพติด เป็นการใช้อำนาจตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม(กัญชา) พ.ศ. 2568 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในเดือนมิถุนายน 2568
ทางกระทรวงสาธารณะสุขมีการกำหนดมาตรการควบคุม “ช่อดอกกัญชา” ได้แก่ ผู้ป่วยต้องมีใบสั่งแพทย์ จึงจะสามารถเข้าถึงช่อดอกกัญชาได้ ร้านจำหน่ายต้องมีใบอนุญาต และจัดหากัญชาต้องจากแหล่งปลูกที่ได้มาตรฐาน
ห้ามจำหน่ายกัญชาผ่าน ออนไลน์ เครื่องขายอัตโนมัติ และโฆษณาเพื่อการค้า ใบสั่งแพทย์จำกัดการจ่าย ไม่เกิน 30 วันต่อครั้ง
“การใช้กัญชาจะจำกัดอยู่ใน 5 กลุ่มอาการ ได้แก่ นอนไม่หลับ, ปวดเรื้อรัง, ไมเกรน, พาร์กินสัน และเบื่ออาหาร เท่านั้น”
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตต้องบันทึกผลการมีและการใช้กัญชาในระบบ พร้อมส่งรายงานดังกล่าวผ่านระบบ online หรือ E-mail ให้ผู้อนุญาตเป็นประจำทุกเดือน
ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยต้องมีใบสั่งจ่ายแพทย์ ซึ่งออกโดยผู้ประกอบวิชาชีพ 6 กลุ่ม ได้แก่ แพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ แพทย์แผนจีน เภสัชกร ทันตแพทย์ และหมอพื้นบ้าน อีก 1 กลุ่ม เท่านั้น
สำหรับร้านกัญชาที่ได้ใบอนุญาต พบว่า ส่วนใหญ่ใบอนุญาตหมดอายุ 3 ปี ประมาณ 12,000 แห่ง จาก 18,000 แห่ง ในการให้ต่อใบอนุญาตร้านค้ากัญชาที่หมดอายุ ต้องอาศัยร่างกฎกระทรวงสาธารณสุข การอนุญาตให้ศึกษาวิจัยหรือส่งออกสมุนไพรควบคุม หรือจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....ที่รอเข้าสู่การพิจารณาของครม.ชุดใหม่
หากร่างนี้ผ่านครม. การต่อใบอนุญาตก็จะต้องดำเนินการตามเกณฑ์ใหม่ ส่วนร้านที่เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต ผู้อนุญาตอาจพิจารณาไม่ต่ออายุใบอนุญาต
ถ้าไปดูกัญชาว่ามีผลในด้านเศษฐกิจแค่ไหน พบว่า ห่วงโซ่มูลค่าของกัญชาเริ่มที่การเพาะปลูก ตั้งแต่การเตรียมโรงเรือน ติดตั้งระบบและควบคุมคุณภาพ การรดน้ำใส่ปุ๋ย การคัดต้นและเก็บเกี่ยวจนได้กัญชาต้นที่สมบูรณ์ เมื่อผู้ปลูกได้ผลผลิตแล้ว ธุรกิจจะเข้ามารับซื้อเพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ออกจำหน่ายต่อไป
เว็บไซต์วุฒิสภา มีการเผยแพร่บทความกัญชา โดยอ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ถึงกรณีการเปิดกัญชาเสรี มีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง
“ข้อดีกัญชาเสรี” คือ ผู้ป่วยที่ต้องการใช้ช่อดอกกัญชาในการรักษาโรค สามารถเข้าถึงการรักษาได้ดีมากยิ่งขึ้น เนื่องจากประชาชนสามารถปลูกเองได้โดยไม่ต้องจดแจ้ง ขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจสามารถใช้ส่วนต่าง ๆ ของพืชกัญชามาผสมเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทำให้เกิดสินค้าที่มีส่วนประกอบของกัญชาจำนวนมาก ทั้งที่เป็นสินค้าอุปโภค และสินค้าบริโภค เช่น ผงปรุงอาหาร น้ำกัญชาสกัดเข้มข้น รวมถึงสบู่ แชมพูสระผม หน้ากากบำรุงผิวพรรณ
“ข้อเสียที่พบ” คือ มีการเติบโตของธุรกิจกัญชาเพื่อการสันทนาการเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งร้านเหล่านี้มักจะเน้นการเสพเพื่อให้เกิดอาการเมา ซึ่งถือว่าเป็นการทำธุรกิจในลักษณะที่ก้ำกึ่ง กล่าวคือ ในด้านหนึ่งสารสกัดจากดอกกัญชาที่ใช้มักจะเกิน ร้อยละ 0.2 ซึ่งทำให้กระบวนการสกัดเข้าข่ายที่จะต้องถูกพิจารณาอนุมัติโดยภาครัฐ แต่ในทางปฏิบัติจะเป็นการยื่นขอเพื่อสกัดใช้ในทางการแพทย์ และสามารถส่งผลิตภัณฑ์ไปยังร้านกัญชาเพื่อการสันทนาการเหล่านี้ได้โดยอ้างว่าเป็นการรักษาโรค เช่น โรคนอนไม่หลับ โรคสมาธิสั้น เป็นต้น
การมีร้านค้าจำนวนมากย่อมส่งผลกระทบทางด้านสังคมต่อประชาชนโดยทั่ว ๆ ไปมากขึ้นเช่นเดียวกัน และจากข้อมูลสำรวจพบว่า ร้านค้าเหล่านี้จำนวนมากมีเจ้าของเป็นคนต่างชาติ จึงทำให้ผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจบางส่วนไม่ได้ตกอยู่กับคนไทยแต่อย่างใด
ในส่วนของผลกระทบทางด้านสังคม คือ เกิดปัญหาเยาวชนใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา ปัญหาคุณภาพของกัญชา ปัญหาการใช้กัญชาผิดวัตถุประสงค์ และ ปัญหากัญชาที่ก่อความรำคาญกับผู้อื่น ซึ่งเกิดขึ้นได้ตั้งแต่กระบวนการผลิต ไปจนถึงกลิ่นควันจากการเสพกัญชาที่ส่งผลกระทบต่อเพื่อนบ้าน
มีการประเมินจากสมาคมสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SME ว่า ปัจจุบันประเมินว่าการใช้กัญชาทางการแพทย์มีมูลค่าขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 36,000 ล้านบาท ตรงนี้ไม่นับรวมการส่งออก
ส่วนการใช้กัญชาในการท่องเที่ยวนั้นมีการประเมินว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติ 300,000-400,000 คน พร้อมจะเข้ามาใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ของไทย เพียงแค่มีใบสั่งยาอย่างถูกต้องและมีหมายเลขผู้รับกัญชาอย่างถูกต้อง และการพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับ(traceability) ช่วยให้สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของกัญชา เป็นการยกระดับในเรื่องของคุณภาพ
ทางด้าน สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท. ให้ความเห็นว่า ความไม่แน่นอนของนโยบายกัญชา ทำให้ช่วงปีที่ผ่านมาตลาดกัญชาไม่คึกคักเท่าที่ควร โดยเอกชนมองว่าความชัดเจนเรื่องกัญชาทางการแพทย์ จะเป็นโอกาศให้ภาคธุรกิจ และต่างชาติกลับมาสนใจการลงทุนในกัญชาในไทยมากขึ้น
กลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพร ส.อ.ท.มีความพร้อมที่จะช่วยเหลือ เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมนี้สร้างรายได้ เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร และเศรษฐกิจโดยภาพรวม
- ตรวจคุณสมบัติ ครม.อนุทิน บททดสอบความชอบธรรมในการบริหารประเทศ
- อนุทิน เปิดตัว "ศุภจี" ว่าที่รมว.พาณิชย์ เผยเบื้องหลังจีบร่วมครม.
- "อนุทิน" เผยตรวจประวัติรมต. ต้องใช้เวลา จ่อเปิดตัว "รมว.ยุติธรรม" พรุ่งนี้
- ทีมเทคโนแครตในรัฐบาลอนุทิน บทพิสูจน์มืออาชีพในเวลาจำกัด
- เจาะครบทุกมิติ เส้นทางชีวิตและผลงาน อนุทิน ชาญวีรกูล
