จากการสำรวจของบริษัท Grand View Research พบว่า ในปี 2567 การท่องเที่ยวเวียดนาม การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์อยู่ที่ 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจสูงถึง 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2576 ในอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 18
ปัจจุบันมีรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์พื้นฐานอยู่ 4 ประเภท ได้แก่
1. การท่องเที่ยวเพื่อการทำศัลยกรรมความงามและการดูแลรูปลักษณ์
2.การท่องเที่ยวเพื่อการรักษาโรคร้ายแรงหรือโรคซับซ้อน อาทิ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ การปลูกถ่ายอวัยวะ เป็นต้น
3.การท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนและฟื้นฟูสุขภาพ
4.การท่องเที่ยวเพื่อรักษาพยาบาลแบบแผนโบราณและสมัยใหม่
สรุปข่าว
จากการสำรวจของบริษัท Grand View Research พบว่า ในปี 2567 การท่องเที่ยวเวียดนาม การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์อยู่ที่ 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจสูงถึง 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2576 ในอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 18
ปัจจุบันมีรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์พื้นฐานอยู่ 4 ประเภท ได้แก่
1. การท่องเที่ยวเพื่อการทำศัลยกรรมความงามและการดูแลรูปลักษณ์
2.การท่องเที่ยวเพื่อการรักษาโรคร้ายแรงหรือโรคซับซ้อน อาทิ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ การปลูกถ่ายอวัยวะ เป็นต้น
3.การท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนและฟื้นฟูสุขภาพ
4.การท่องเที่ยวเพื่อรักษาพยาบาลแบบแผนโบราณและสมัยใหม่
เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม และกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ได้ร่วมกันจัดการประชุมระดับชาติว่าด้วยการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ควบคู่กับการพัฒนาที่ยั่งยืน ระบุว่า เวียดนามมีข้อได้เปรียบหลายประการในการพัฒนาเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดความสนใจบนแผนที่การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์โลก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าหลายประเทศ
รวมถึงความสามารถด้านเทคนิคทางการแพทย์สูง อาทิ การทำหัตถการหัวใจ การปลูกถ่ายอวัยวะ การปฏิสนธินอกร่างกาย ( IVF) และทันตกรรมเพื่อความงาม ซึ่งล้วนได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพมาตรฐานทางการแพทย์
นอกจากนี้ การแพทย์แผนโบราณของเวียดนามที่มีวิธีการบำบัดและการพักฟื้นสุขภาพ ถือเป็นจุดแข็งอีกหนึ่งด้าน
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของเวียดนามกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เนื่องจากยังมีโรงพยาบาลเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการรับรองคุณภาพในระดับสากล อาทิ การรับรองคุณภาพ Joint Commission International (JCI) จึงยังไม่สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมได้
นอกจากนี้ กฎระเบียบบางประการเกี่ยวกับการร่วมทุน ความร่วมมือทางธุรกิจ และรูปแบบการจัดการทางการเงิน ยังไม่เอื้อให้โรงพยาบาลของรัฐสามารถพัฒนาบริการทางการแพทย์คุณภาพสูงได้
ในที่ประชุม มีข้อแนะนำ ให้เวียดนาม ศึกษาต้นแบบความสำเร็จจากประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ประเทศไทยและเกาหลีใต้ โดยประเทศไทยสร้างรายได้ถึงปีละ 600–700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการศัลยกรรมเพื่อความงามและการรักษาโรคหัวใจ ขณะที่เกาหลีใต้สร้างรายได้ 4,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการศัลยกรรมเพื่อความงามและการรักษาโรคมะเร็ง
หลังจากนี้คาดว่าเวียดนาจะมีนโยบายผลักดันเพิ่มเติม และน่าจับตามอง ถ้าเวียดนามีการพัฒนาการบริการด้านนี้ขึ้นมาเรื่อย ๆ อาจมีโอกาสที่เวียดนามจะกลายมาเป็นคู่แข่งการท่องเที่ยวทางการแพทย์กับไทย หลังจากก่อนหน้านี้แข่งด้านท่องเที่ยวในภาพรวมไปแล้ว
- เปิดแนวคิดการเที่ยวยุคใหม่ ท่องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึก เคารพโลก สิ่งแวดล้อม และชุมชน
- "ฮุน มาเนต" นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยินดี "อนุทิน" ขึ้นแท่นนายกรัฐมนตรี
- ภาพเวียดนามสวนสนามครั้งใหญ่สุดฉลองวันเอกราช
- ลาก่อนทะเล สวัสดีภูเขา การท่องเที่ยวครั้งต่อไปของคุณอาจเป็นสถานที่ที่เย็นขึ้น
- เวียดนามเปิดตัวเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ กาสิโนแห่งแรกของประเทศ ทุ่มทุน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่มาข้อมูล : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
ที่มารูปภาพ : canva
