ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ ประธานกรรมการ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา กล่าวในงานสัมมนาระดับภูมิภาค “Southeast Asia Trade and Development Forum 2025” ว่า จากรายงาน Global Risks Report 2025 ของ สภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) โลกกำลังเผชิญกับความเสี่ยงเชิงโครงสร้างที่เชื่อมโยงกัน ทั้งการเร่งตัวของเทคโนโลยี ความเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ วิกฤติสิ่งแวดล้อม การกีดกันทางการค้า และโครงสร้างประชากร
ซึ่งความเสี่ยงทั้งหมดนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ในระดับภูมิภาคและทั่วโลก สำหรับอาเซียน ความท้าทายเหล่านี้หมายถึงความจำเป็นที่จะต้องสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจ ลดความเปราะบางของห่วงโซ่อุปทาน
สรุปข่าว
ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ ประธานกรรมการ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา กล่าวในงานสัมมนาระดับภูมิภาค “Southeast Asia Trade and Development Forum 2025” ว่า จากรายงาน Global Risks Report 2025 ของ สภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) โลกกำลังเผชิญกับความเสี่ยงเชิงโครงสร้างที่เชื่อมโยงกัน ทั้งการเร่งตัวของเทคโนโลยี ความเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ วิกฤติสิ่งแวดล้อม การกีดกันทางการค้า และโครงสร้างประชากร
ซึ่งความเสี่ยงทั้งหมดนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ในระดับภูมิภาคและทั่วโลก สำหรับอาเซียน ความท้าทายเหล่านี้หมายถึงความจำเป็นที่จะต้องสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจ ลดความเปราะบางของห่วงโซ่อุปทาน
และเร่งสร้างความร่วมมือในด้านสิ่งแวดล้อมและนวัตกรรม เพื่อให้ภูมิภาคเราสามารถเติบโต และยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง การจัดงานฟอรัมครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะเชื่อมโยงความคิดและประสบการณ์จากทุกภาคส่วน เพื่อวางทิศทางการค้าและการพัฒนาของอาเซียนในอนาคต
ด้าน นายสุภกิจ เจริญกุล ผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา กล่าวว่า โลกธุรกิจในปัจจุบันต้องเผชิญทั้งความเสี่ยงและโอกาสในเวลาเดียวกัน ทั้งสงครามการค้า มาตรการสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI ซึ่งจะกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการไทย
โดยเฉพาะ SMEs และสตาร์ทอัพที่ต้องแข่งขันในห่วงโซ่มูลค่าโลก การจัดฟอรัมครั้งนี้ไม่ใช่แค่เวทีแลกเปลี่ยนความรู้ แต่เป็นพื้นที่เชิงนโยบายที่ข้อเสนอจากเวทีจะถูกผลักดันสู่ภาครัฐ เพื่อให้ไทยรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกอย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการเองก็จะได้โอกาสเชื่อมโยงกับนักลงทุน ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
ส่วนกรณีการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงทำให้มีรัฐบาลใหม่นั้น ไอทีดีพร้อมจะเดินหน้านโยบายตามที่รัฐบาลกำหนดแบบไร้ปัญหา ส่วน การเจรจาภาษีสหรัฐฯ นั้นที่ไทยถูกเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 19 ก็ยังมีการเจรจาเงื่อนไขกันต่อไป
