ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เปิด 3 เส้นทางบินใหม่ ญี่ปุ่น คาซัคสถาน และซาอุฯ

ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เปิด 3 เส้นทางบินใหม่  ญี่ปุ่น  คาซัคสถาน และซาอุฯ

ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ พาทุกคนบินไกลสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับ 3 เส้นทางอันตื่นตาตื่นใจ รับฤดูกาลท่องเที่ยวส่งท้ายปี บินตรงจากดอนเมือง สู่ อัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์และอาทิตย์ เซนได ประเทศญี่ปุ่น  4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์และอาทิตย์  และริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย  4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี เสาร์เเละอาทิตย์ พร้อมให้บริการด้วยเครื่องบินเเบบเเอร์บัส เอ 330 

นางภัทรา บุศราวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ สามารถเปิด 3 เส้นทางบินใหม่ได้พร้อมๆ กัน บินสู่ 3 ภูมิภาค ทั้งเอเชียกลาง เอเชียเหนือ และเอเชียตะวันออกกลาง จากเดิมที่แอร์เอเชียเป็นผู้เชี่ยวชาญเส้นทางบินญี่ปุ่นตัวจริง เราได้เพิ่มอีกเส้นทางบินตรงสู่ “เซนได” เป็นเส้นทางที่ 7 ทำให้แอร์เอเชียมีเส้นทางบินเชื่อมไทยและญี่ปุ่นมากที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นครั้งเเรกในการเปิดตลาดใหม่สู่ “อัลมาตี” ประเทศคาซัคสถาน ที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และครั้งเเรกในการเปิดบินตรงสู่เมือง “ริยาด” ประเทศซาอุดีอาระเบีย ของกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย โดยเส้นทางสู่อัลมาตีเเละเซนได เริ่มให้บริการเที่ยวบินเเรก 1 ธันวาคม 2568 เส้นทางริยาดเริ่ม 2 ธันวาคม 2568

“กลยุทธ์ของไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ต่อจากนี้ คือ การเปิดเส้นทางที่มีศักยภาพในภูมิภาคการบินใหม่ๆ ที่หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะโอกาสในการบินสู่ตะวันออกกลาง ซึ่งเหมาะกับการบินด้วยเครื่องแอร์บัส A330 ของเรา ทั้งนี้นอกจากการเปิดประสบการณ์ใหม่สำหรับชาวไทยแล้ว ยังเชื่อมั่นว่าการเปิด 3 เส้นทางบินใหม่ จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวนานาชาติเข้ามาท่องเที่ยวใช้จ่ายในประเทศไทยช่วงปลายปีได้อย่างดี” นางภัทรากล่าว



สรุปข่าว

ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เปิดเส้นทางบินใหม่ 3 เส้นทางจากดอนเมืองสู่อัลมาตี เซนได และริยาด เริ่มให้บริการธันวาคม 2568 เน้นขยายตลาดใหม่สู่เอเชียกลางและตะวันออกกลาง เสริมศักยภาพฝูงบินด้วยแอร์บัส A330 รวม 11 ลำภายในปี คาดดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยปลายปี แม้ภาพรวม 8 เดือนแรกนักท่องเที่ยวลดลง 7% จากปีก่อน

ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ พาทุกคนบินไกลสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับ 3 เส้นทางอันตื่นตาตื่นใจ รับฤดูกาลท่องเที่ยวส่งท้ายปี บินตรงจากดอนเมือง สู่ อัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์และอาทิตย์ เซนได ประเทศญี่ปุ่น  4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์และอาทิตย์  และริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย  4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี เสาร์เเละอาทิตย์ พร้อมให้บริการด้วยเครื่องบินเเบบเเอร์บัส เอ 330 

นางภัทรา บุศราวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ สามารถเปิด 3 เส้นทางบินใหม่ได้พร้อมๆ กัน บินสู่ 3 ภูมิภาค ทั้งเอเชียกลาง เอเชียเหนือ และเอเชียตะวันออกกลาง จากเดิมที่แอร์เอเชียเป็นผู้เชี่ยวชาญเส้นทางบินญี่ปุ่นตัวจริง เราได้เพิ่มอีกเส้นทางบินตรงสู่ “เซนได” เป็นเส้นทางที่ 7 ทำให้แอร์เอเชียมีเส้นทางบินเชื่อมไทยและญี่ปุ่นมากที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นครั้งเเรกในการเปิดตลาดใหม่สู่ “อัลมาตี” ประเทศคาซัคสถาน ที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และครั้งเเรกในการเปิดบินตรงสู่เมือง “ริยาด” ประเทศซาอุดีอาระเบีย ของกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย โดยเส้นทางสู่อัลมาตีเเละเซนได เริ่มให้บริการเที่ยวบินเเรก 1 ธันวาคม 2568 เส้นทางริยาดเริ่ม 2 ธันวาคม 2568

“กลยุทธ์ของไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ต่อจากนี้ คือ การเปิดเส้นทางที่มีศักยภาพในภูมิภาคการบินใหม่ๆ ที่หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะโอกาสในการบินสู่ตะวันออกกลาง ซึ่งเหมาะกับการบินด้วยเครื่องแอร์บัส A330 ของเรา ทั้งนี้นอกจากการเปิดประสบการณ์ใหม่สำหรับชาวไทยแล้ว ยังเชื่อมั่นว่าการเปิด 3 เส้นทางบินใหม่ จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวนานาชาติเข้ามาท่องเที่ยวใช้จ่ายในประเทศไทยช่วงปลายปีได้อย่างดี” นางภัทรากล่าว



ทั้งนี้ ภายในปี 2568 ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์พร้อมให้บริการด้วย 10 เส้นทางบินตรงจากดอนเมือง(DMK) สู่ โตเกียว โอซาก้า  นาโกย่า  ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น โซล ประเทศเกาหลีใต้ เดลี ประเทศอินเดีย เซี่ยงไฮ้  ประเทศจีน และเส้นทางใหม่ อัลมาตี  ประเทศคาซัคสถาน เซนได ประเทศญี่ปุ่น ริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยมีเเผนรับเครื่องบินแอร์บัส A330 ใหม่จำนวน 2 ลำประจำการฝูงบินในไตรมาสที่ 4 รวมฝูงบินเป็น 11 ลำ ณ สิ้นปี


นอกจากนี้ยังมีความเห็นเรื่องของ รัฐบาลชุดใหม่ ในฐานะภาคเอกชนด้านท่องเที่ยวว่า แม้รัฐบาลอยู่ในช่วงสั้นๆ แต่ก็น่าจะออก “มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว” อย่างเป็นรูปธรรมได้ เช่น การอัดฉีดงบประมาณเพื่อสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นมาตรการลักษณะเดียวกับเที่ยวคนละครึ่ง หรือมาตรการใหม่ที่ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย พร้อมทั้งมีสิทธิประโยชน์ในการเดินทางในประเทศร่วมด้วย 

นอกจากนี้ รัฐบาลควรส่งเสริมการพัฒนา แลนด์มาร์กใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่นเดียวกับเวียดนามที่ลงทุนสร้างเมืองใหม่ที่มีจุดขายหลากหลาย ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น  รวมถึงการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีน ที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว และฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศ

ทั้งนี้ประเมินภาพรวมการท่องเที่ยวในปีนี้ ลดลงจากปีก่อน โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ลดลงประมาณร้อยละ 7 อยู่ที่ราว 23 ล้านคน แต่คาดว่าในช่วงปลายปีจะสามารถปิดยอดรวมได้เทียบเท่าปีที่แล้วที่ 35 ล้านคน  โดยช่วงปลายปี ยังมีปัจจัยลบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งอาจส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอการเดินทางเข้ามา