Amazon เดินหน้าขยายอาณาจักรเข้าสู่วงการสุขภาพอย่างจริงจัง ด้วยการเปิดตัว "ตู้จ่ายยาอัตโนมัติ" (Prescription Vending Machines) ภายใต้การดำเนินงานของ Amazon Pharmacy ภายในคลินิกของ One Medical หลายแห่งในนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจพลิกโฉมอุตสาหกรรมร้านขายยาทั่วประเทศ
ตู้จ่ายยาอัตโนมัติของ Amazon ทำงานคล้ายกับเครื่องจำหน่ายสินค้า โดยสามารถจ่ายยาให้ผู้ป่วยได้ภายในไม่กี่นาที หลังแพทย์สั่งจ่าย ยาแต่ละตู้สามารถเก็บยาหลายร้อยรายการ เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาพ่นสำหรับโรคหอบหืด หรือยาควบคุมความดันโลหิต โดยจะมีการปรับคลังยาให้เหมาะกับพื้นที่แต่ละแห่ง
นางแฮนนาห์ แมคเคลแลน (Hannah McClellan) รองประธานฝ่ายปฏิบัติการของ Amazon Pharmacy กล่าวว่า จุดประสงค์ของนวัตกรรมนี้คือการลดขั้นตอนการรับยา เพื่อให้ผู้ป่วยเริ่มต้นการรักษาได้รวดเร็วขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยจำนวนมากมักละเลยการไปซื้อยาหลังพบแพทย์เสร็จสิ้น
สรุปข่าว
Amazon เดินหน้าขยายอาณาจักรเข้าสู่วงการสุขภาพอย่างจริงจัง ด้วยการเปิดตัว "ตู้จ่ายยาอัตโนมัติ" (Prescription Vending Machines) ภายใต้การดำเนินงานของ Amazon Pharmacy ภายในคลินิกของ One Medical หลายแห่งในนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจพลิกโฉมอุตสาหกรรมร้านขายยาทั่วประเทศ
ตู้จ่ายยาอัตโนมัติของ Amazon ทำงานคล้ายกับเครื่องจำหน่ายสินค้า โดยสามารถจ่ายยาให้ผู้ป่วยได้ภายในไม่กี่นาที หลังแพทย์สั่งจ่าย ยาแต่ละตู้สามารถเก็บยาหลายร้อยรายการ เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาพ่นสำหรับโรคหอบหืด หรือยาควบคุมความดันโลหิต โดยจะมีการปรับคลังยาให้เหมาะกับพื้นที่แต่ละแห่ง
นางแฮนนาห์ แมคเคลแลน (Hannah McClellan) รองประธานฝ่ายปฏิบัติการของ Amazon Pharmacy กล่าวว่า จุดประสงค์ของนวัตกรรมนี้คือการลดขั้นตอนการรับยา เพื่อให้ผู้ป่วยเริ่มต้นการรักษาได้รวดเร็วขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยจำนวนมากมักละเลยการไปซื้อยาหลังพบแพทย์เสร็จสิ้น
ก่อนใช้งาน แพทย์จะต้องส่งใบสั่งยาไปยัง Amazon Pharmacy เพื่อให้เภสัชกรของบริษัทตรวจสอบ ผู้ป่วยจะสามารถยืนยันคำสั่งซื้อผ่านแอป Amazon แล้วสแกนคิวอาร์โค้ดที่ตู้เพื่อรับยา ระบบจะมีเภสัชกรตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งแบบเรียลไทม์ก่อนปล่อยยา พร้อมบริการพูดคุยกับเภสัชกรผ่านวิดีโอหรือโทรศัพท์
แมคเคลแลนย้ำว่า ตู้จ่ายยานี้ไม่ได้มีไว้แทนที่เภสัชกรแต่เป็นการนำความเชี่ยวชาญของพวกเขามาใกล้ผู้ป่วยมากขึ้น เพื่อให้การดูแลสุขภาพมีความสะดวก ปลอดภัย และต่อเนื่องยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน ธุรกิจร้านขายยาดั้งเดิมในสหรัฐฯ กำลังเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนและอัตรากำไรที่ลดลง โดยเฉพาะจากสินค้ากลุ่มยาราคาต่ำ และต้องแข่งขันกับผู้ค้าปลีกออนไลน์อย่าง Amazon และ Walmart ที่เข้ามาชิงตลาดสินค้าสุขภาพและของใช้ทั่วไป
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Rite Aid ได้ปิดกิจการร้านขายยาทั้งหมดหลังเปิดดำเนินการมากว่า 60 ปี ขณะที่ CVS และ Walgreens ก็ทยอยปิดสาขาเช่นกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
สำหรับ Amazon การขยายเข้าสู่อุตสาหกรรมสุขภาพถือเป็นกลยุทธ์ระยะยาว โดยเริ่มจากการเข้าซื้อกิจการร้านขายยาออนไลน์ PillPack มูลค่า 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018 และเปิดตัวบริการ Amazon Pharmacy ในปี 2020 ต่อมาในปี 2022 Amazon ได้เข้าซื้อคลินิก One Medical ด้วยมูลค่า 3.9 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นการลงทุนใหญ่ลำดับที่ 3 ในประวัติศาสตร์บริษัท
ที่มาข้อมูล : https://www.cnbc.com/2025/10/08/amazon-debuts-prescription-kiosks-at-los-angeles-one-medical-clinics.html
ที่มารูปภาพ : -
