"แร่หายาก" อาวุธลับ สงครามการค้า สหรัฐฯ-จีน

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา กับจีน ยังคงมีความตึงเครียด นอกจากการแข่งกันขึ้นภาษี ล่าสุดคือการแย่งชิง "แร่หายาก" (Rare Earth Elements) ซึ่งจีนถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้ผลิตเป็นเจ้าหลักของรายใหญ่รายเดียวของโลก

แร่หายาก คืออะไร แร่เหล่านี้เป็นวัตถุดิบจำเป็นสำหรับผลิตสินค้าทุกอย่างตั้งแต่สมาร์ตโฟนไปจนถึงเครื่องบินรบ ตั้งแต่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ไปถึงด้านความมั่นคง  แร่หายากเป็นวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับเทคโนโลยีสำคัญๆ มากมาย เช่น แผงโซลาร์เซลล์ รถไฟฟ้า และอาวุธทหาร ตัวอย่างเช่น เครื่องบินรบ F-35 ลำหนึ่งต้องการแร่หายากกว่า 400 กิโลกรัม สำหรับชั้นเคลือบพรางตัว มอเตอร์ เรดาร์ และชิ้นส่วนต่างๆ 

สรุปข่าว

อาวุธลับ อาวุธใหม่ ของประเทศจีน ในการสู้ศึกสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ก็คือ แร่หายาก ที่มีความสำคัญมากๆ ในอุตสาหกรรมระดับสูง และสหรัฐฯก็ต้องการสิ่งนี้เป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเกมที่เกิดขึ้นก็คือ เมื่อจีนไม่ให้ จะทำอะไรได้

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา กับจีน ยังคงมีความตึงเครียด นอกจากการแข่งกันขึ้นภาษี ล่าสุดคือการแย่งชิง "แร่หายาก" (Rare Earth Elements) ซึ่งจีนถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้ผลิตเป็นเจ้าหลักของรายใหญ่รายเดียวของโลก

แร่หายาก คืออะไร แร่เหล่านี้เป็นวัตถุดิบจำเป็นสำหรับผลิตสินค้าทุกอย่างตั้งแต่สมาร์ตโฟนไปจนถึงเครื่องบินรบ ตั้งแต่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ไปถึงด้านความมั่นคง  แร่หายากเป็นวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับเทคโนโลยีสำคัญๆ มากมาย เช่น แผงโซลาร์เซลล์ รถไฟฟ้า และอาวุธทหาร ตัวอย่างเช่น เครื่องบินรบ F-35 ลำหนึ่งต้องการแร่หายากกว่า 400 กิโลกรัม สำหรับชั้นเคลือบพรางตัว มอเตอร์ เรดาร์ และชิ้นส่วนต่างๆ 

ข้อมูลจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุว่าจีนยังคงเป็นผู้ครองตลาดแม่เหล็กถาวรจากแร่หายากรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีสัดส่วนประมาณ 90% ของการผลิตทั่วโลก และมีอำนาจเหนือการกลั่นแร่หายากในระดับเดียวกัน โดยเมื่อปีที่แล้วหรือในปี 2567 แร่หายากที่สหรัฐฯนำเข้าประเทศมากถึงประมาณ 70% มาจากจีน และแม้สหรัฐฯจะเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับสองของโลก แต่ยังห่างชั้นจากจีนมาก และมีปริมาณสำรองเพียง 2% ของโลกเท่านั้น

การออกประกาศครั้งล่าสุดนี้ สะเทือนสงครามการค้าสหรัฐฯ เพราะบริษัทต่างชาติต้องขออนุมัติจากรัฐบาลจีน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าจีนนั้นได้เปรียบเพราะครองตลาดแปรรูปเกือบทั้งหมด และยังส่งผลกระทบต่อเทคโนโลยี ทหาร และยานยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ทั่วโลก และที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้พัฒนาบุคลากรจำนวนมากและเครือข่ายวิจัยที่ล้ำหน้าคู่แข่งในด้านนี้ ถึงแม้สหรัฐฯ และพันธมิตร ร่วมมือกันทำเป็นโครงการระดับชาติ แต่น่าจะต้องใช้อย่างน้อย 5 ปีถึงจะตามจีนทัน เห็นได้ชัดจากการที่ก่อนหน้านี้ในช่วงเมษายน นับตั้งแต่การคุมเข้มการส่งออกครั้งแรก ก็เคยทำให้เกิดวิกฤตขาดแคลนแร่หายากทั่วโลก และส่งผลทำให้หลายอุตสาหกรรมต้องหยุดชะงักมาแล้ว

ที่มาข้อมูล : TNN WEALTH

ที่มารูปภาพ : CANVA

แท็กบทความ