
นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุกระทรวงการคลังร่วมกับ กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ในปฏิบัติการลับ แลก ลวง สกัดขบวนการหลอกลวงสิทธิ์รัฐร้านค้า
สรุปข่าว
นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุกระทรวงการคลังร่วมกับ กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ในปฏิบัติการลับ แลก ลวง สกัดขบวนการหลอกลวงสิทธิ์รัฐร้านค้า
โดยตรวจพบการโพสต์เชิญชวนแลกเงิน โครงการคนละครึ่ง พลัส บนโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่ก่อนเริ่มโครงการ รับแลกเงินโดยที่ไม่มีการซื้อขายสินค้าจริง และหักจากยอดเงิน 10-20%
เบื้องต้นตรวจสอบพบ ผู้กระทําความผิด 3 ราย ในจังหวัดสมุทรปราการ นครสวรรค์ และอุดรธานี ซึ่งทั้ง 3 รายไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ซึ่ง 2 ใน 3 รายเป็นร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ และ 1 ราย
ยังไม่ได้ลงทะเบียนร้านค้า แต่มีแอปถุงเงิน ซึ่งมี 1 ราย รับสารภาพแล้วและอีก 1 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวน
พร้อมย้ำเตือนร้านค้าและผู้ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ ห้ามรับแลกเงินสดโดยเด็ดขาด หากตรวจพบจะถูกตัดสิทธิ์โครงการ ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและไม่สามารถยอมความได้
โดยผู้ที่โพสต์เชิญชวนจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และหากมีการใช้จ่ายจริงในโครงการฯ ผู้ที่เป็นเจ้าของแอปถุงเงินจะมีความผิดฐานฉ้อโกงรัฐ และผู้ที่ร่วมกระทําจะมีความผิดด้วยเช่นกัน ถือว่ามีความผิดทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
ทั้งนี้ จะมีหน่วยเฝ้าระวังจาก พนักงานสอบสวน กองบัญชาการสอบสวนกลาง สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ขณะที่กระทรวงการคลังจะทํางานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ
โดยมีระบบเฝ้าระวังด้วยเช่นกัน โดยการทํา data analytics ตรวจสอบเส้นทางการเงินของร้านค้าที่เข้ามาในช่วงผิดปรกติวิสัย หากตรวจพบจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ เพื่อให้ปกป้องร้านค้าในโครงการที่มีการค้าขายจริง
- จับจริง!ตร.รวบผู้ต้องหา รับแลกเงินสด “คนละครึ่งพลัส” เจอข้อหาหนัก
- ข้อควรรู้ก่อนเริ่มใช้"คนละครึ่งพลัส" | เรื่องดีดีทั่วไทย | 29-10-68
- ขสมก. เข้าร่วม “คนละครึ่งพลัส” นั่งรถเมล์จ่ายค่าโดยสารแค่ครึ่งเดียว
- "ไลน์แมน" หั่นค่า GP เหลือ 7% หนุนคนละครึ่งพลัส ชูใช้ง่าย-ขายดี
- เปิดบทลงโทษเข้าข่ายฉ้อโกง หากนำสิทธิ “คนละครึ่งพลัส” ไปแลกเงินสด
