กพอ. เห็นชอบแผนพัฒนา “เมืองอัจฉริยะ (Smart City)”

Share on Line Share on Facebook Share on X

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 5/2568 มีมติเห็นชอบแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล พ.ศ. 2567–2570 ให้พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ก้าวสู่การเป็น เมืองอัจฉริยะ (Smart City) และ ศูนย์กลางข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัลของอาเซียน (ASEAN Digital Hub)

นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แผนดังกล่าวเป็นการนำโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและข้อมูลเมือง (City Data Platform) มาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการเมืองแบบบูรณาการ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวางผังเมือง ความปลอดภัย และการให้บริการภาครัฐในพื้นที่อีอีซีอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ โครงการเมืองอัจฉริยะในอีอีซีเน้นการพัฒนาใน 7 มิติ ได้แก่ Smart Mobility, Smart Living, Smart Environment, Smart Governance, Smart Economy, Smart People และ Smart Energy เช่น ระบบจราจรอัจฉริยะ กล้องความปลอดภัยอัจฉริยะ การบริหารมลพิษและพลังงานสะอาด รวมถึงระบบบริการภาครัฐผ่านดิจิทัลไอดี ลดขั้นตอนและลดการใช้เอกสาร


สรุปข่าว

กพอ. เห็นชอบแผนพัฒนา “เมืองอัจฉริยะ (Smart City)” และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในอีอีซี มุ่งสู่ ASEAN Digital Hub ดันคุณภาพชีวิตประชาชนและรองรับการลงทุนในอนาคต

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 5/2568 มีมติเห็นชอบแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล พ.ศ. 2567–2570 ให้พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ก้าวสู่การเป็น เมืองอัจฉริยะ (Smart City) และ ศูนย์กลางข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัลของอาเซียน (ASEAN Digital Hub)

นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แผนดังกล่าวเป็นการนำโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและข้อมูลเมือง (City Data Platform) มาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการเมืองแบบบูรณาการ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวางผังเมือง ความปลอดภัย และการให้บริการภาครัฐในพื้นที่อีอีซีอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ โครงการเมืองอัจฉริยะในอีอีซีเน้นการพัฒนาใน 7 มิติ ได้แก่ Smart Mobility, Smart Living, Smart Environment, Smart Governance, Smart Economy, Smart People และ Smart Energy เช่น ระบบจราจรอัจฉริยะ กล้องความปลอดภัยอัจฉริยะ การบริหารมลพิษและพลังงานสะอาด รวมถึงระบบบริการภาครัฐผ่านดิจิทัลไอดี ลดขั้นตอนและลดการใช้เอกสาร


พร้อมกันนี้ ยังมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาค ได้แก่Thailand Digital Valley เพื่อเป็นฐานด้าน AI – Robotics – IoT และเป็นพื้นที่ทดสอบ (Sandbox) สำหรับธุรกิจเทคโนโลยี  โครงสร้างพื้นฐานเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ รองรับ Data Center และ Cloud Provider ระดับโลกระบบบริการภาครัฐแบบดิจิทัลครบวงจร (One-Stop Service / Digital ID) ทำให้การอนุญาตและการเริ่มโครงการต่าง ๆ ทำได้รวดเร็วขึ้น

รองโฆษกรัฐบาลกล่าวว่า แผนนี้ออกแบบโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เป้าหมายไม่เพียงดึงการลงทุนด้านเทคโนโลยี แต่เพื่อให้ประชาชน “อยู่ดี ปลอดภัย ฉลาด และยั่งยืน” จากเทคโนโลยี เช่น การแจ้งเตือนภัยอัตโนมัติในพื้นที่สาธารณะ การเข้าถึงบริการรัฐแบบไร้เอกสาร และข้อมูลจราจรแบบเรียลไทม์


ผลลัพธ์คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปี 2570 ได้แก่ มูลค่าการลงทุนด้านดิจิทัลมากกว่า 35,000 ล้านบาท พัฒนาอย่างน้อย 100 พื้นที่ให้เป็นเมืองอัจฉริยะประชาชนในพื้นที่อีอีซี มากกว่า 80% เข้าถึงบริการภาครัฐผ่านดิจิทัลได้ทั้งหมด

เป้าหมายของ Smart City ในอีอีซี ไม่ใช่แค่สร้างเมืองให้ทันสมัย แต่คือการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN

แท็กบทความ