หมดยุคของสะสม? "Funko" จ่อล้มละลาย วิกฤตการเงิน-พิษภาษีทรัมป์

ตามเอกสารของบริษัทฯ ยังระบุถึงแนวทางการฟื้นฟูธุรกิจ ซึ่งประกอบไปด้วย การจัดหาเงินทุนเพิ่มเติม และจำกัดขอบเขตการดำเนินธุรกิจให้แคบลง โดยจะมุ่งไปที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ขนาดเล็กลง เช่น Bitty Pop, ของสะสมแบบกล่องสุ่ม และตู้จำหน่าย Pop Yourself ซึ่งเป็นบริการที่เปิดให้คนทั่วไปสามารถสร้างฟิกเกอร์ในแบบฉบับของตัวเองได้

แต่ก็ระบุไว้ด้วยว่า บริษัทฯ กำลังสำรวจทางเลือกเชิงกลยุทธ์อื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย ซึ่งรวมไปถึงการขายกิจการ ที่มีโอกาสเป็นไปได้เช่นกัน 

ทั้งนี้ Funko ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของสินค้าวัฒนธรรมป๊อป (Pop Culture) มานานกว่าทศวรรษ โด่งดังอย่างมากจาก ฟิกเกอร์ ของเล่นสะสมจากบรรดาคาแรคเตอร์ลิขสิทธิ์ จากทั้งภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ การ์ตูน และวิดีโอเกม และเคยเป็นสินค้าหลักทั้งใน Walmart Target ร้านหนังสือการ์ตูนและร้านเกมทุกแห่ง 

แต่ตอนนี้กำลังเผชิญกับช่วงเวลาท้าทายที่สุด ที่อาจกำหนดอนาคตใหม่ขององค์กร 

Funko ก่อตั้งขึ้นในปี 1998 ที่เมือง Snohomish ในวอชิงตัน เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทจำหน่ายตุ๊กตา (หัวโยกได้) ซึ่งเป็นตุ๊กตาที่มักจะแจกในการแข่งขันกีฬาเบสบอล

ต่อมาในปี 2004 ได้เปิดตัวไลน์สินค้าใหม่กลุ่ม Funko Pop ซึ่งเป็นตัวฟิกเกอร์ หรือตุ๊กตาไวนิล ที่มีตัวขนาดเล็กแต่หัวใหญ่เกิดสัดส่วน จนในช่วงที่ได้รับความนิยมสูงสุด Funko  ประกาศว่าได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์รายใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยการมีตัวคาแรคเตอร์ในวัฒนธรรมป๊อปมากกว่า 1,000 รายการ ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้มีชื่อเสียงที่มีชีวิตอยู่จริง และตัวละครจากจินตนาการ การเติบโตของบริษัทฯ ดำเนินมาต่อเนื่อง จนในปี 2017 ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 

และในช่วงการระบาดโควิด 19 มูลค่าของฟิกเกอร์ได้พุ่งขึ้นอย่างมาก จากกระแสความนิยมเพิ่มขึ้น ทำให้ยอดขายปี 2021 ทะลุหลัก 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 58 จากปีก่อนหน้า

ตามข้อมูลของ Andrew Perlmutter ซีอีโอของ Funko ในช่วงนั้น เผยว่า ตลาดขายต่อของ Funko Pop มีมูลค่าสูงถึง 700 - 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

กระแสคลั่งไคล้ถึงขนาดตกเป็นเป้าหมายของการโจรกรรมอยู่หลายครั้ง จากมูลค่าของตัวละครที่เพิ่มขึ้น โดยราคาจำหน่ายทั่วไปของ Funko Pop ในเวอร์ชันมาตรฐาน จะอยู่ที่ราว 10-20 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น แต่เมื่อนำไปขายต่อ ราคามักสูงขึ้น 

เช่น ตัวฟิกเกอร์ Alex DeLarge จากหนังคลาสสิก ในปี 1971 เรื่อง Clockwork Orange ส่วนใหญ่จะมีราคามากกว่า 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วน Dumbo จากดิสนีย์ จะสามารถขายได้อยู่ที่ราคาราว 7,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ในเดือนพฤษภาคม ปี 2022 คอลเลกชันพิเศษของ Willy Wonka ซึ่งเป็นตัวละครจากเรื่อง Charlie and the Chocolate Factory  ได้ถูกขายไปด้วยมูลค่าสูงถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้กลายเป็นการซื้อขาย Funko Pop ที่ทำเงินสูงสุด เท่าที่เคยมีมา

แต่จากนั้น กระแสความสนใจกลับลดลงต่อเนื่อง พร้อมกับหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น

ซึ่งบริษัทฯ รายงานว่า สาเหตุหลักมาจากความต้องการที่ลดลง โดยเฉพาะตลาดในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหลัก ยอดขายลดลงไปเกือบร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว นอกจากนี้ Funko ยังเป็นผู้ผลิตตุ๊กตาของเล่นในสหรัฐฯ อีกราย ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีศุลกากร (ภาษีนำเข้า) ใหม่ ที่ปรับสูงขึ้น และอีกปัจจัยสำคัญคือ เกิดจากการผลิตที่ล้นเกิดจนท่วมตลาดมาหลายปี ทำให้ปัจจุบัน Funko กลายเป็นเครื่องเตือนใจ ว่าแม้แต่แบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ก็อาจเจอกับปัญหาได้เมื่อความสนใจของผู้บริโภคลดลงและตลาดเริ่มอิ่มตัว 

อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดของเล่นสะสมทั่วโลก บริษัทวิจัยตลาดยังมองในเชิงบวก เช่น global growth insights ประเมินว่า ตลาดของเล่นสะสมทั่วโลกปี 2024 นั้นมีมูลค่าอยู่ที่ 14,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และปี 2025 จะเติบโตขึ้นเป็น 15,890 ล้านดอลลาร์หสรัฐฯ

และคาดว่าจะยังขยายตัวต่อเนื่องไปจนถึงปี 2034 โดยมูลค่าตลาด จะแตะอยู่ที่ 37,970 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยอัตราการเติบโตต่อปีเฉลี่ยที่ร้อยละ 10.16 ระหว่างปี 2025-2034

ผู้บริโภคส่วนใหญ่ ร้อยละ 45 จะชื่นชอบกับของเล่นสะสมที่ผลิตในแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ขณะที่ความต้องการร้อยละ 40 จะถูกขับเคลื่อนจากความรู้สึกคิดถึงอดีต ร้อยละ 37 มักจะได้รับอิทธิพลจากการมีส่วนร่วม และร้อยละ 33 มาจากการเชื่อมโยงกับภาพยนตร์ หรือให้ความสำคัญกับการสะสมตัวละครดัง และร้อยละ 32 มาจากของเล่นแบบกล่องสุ่ม เหล่านี้ จะช่วยกระตุ้นการเติบโตต่อเนื่องในตลาดทุกกลุ่ม