สำนักข่าว CNBC รายงานว่า สิงคโปร์ผงาดคว้าอันดับ 1 ด้านความสามารถในการแข่งขันของบุคลากรโลกประจำปี 2025 จากรายงาน Global Talent Competitiveness Index (GTCI) ซึ่งจัดทำโดยโรงเรียนธุรกิจ INSEAD ร่วมกับสถาบันวิจัย Portulans Institute ในสหรัฐ ถือเป็นครั้งแรกที่สิงคโปร์แซงสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งครองอันดับสูงสุดมาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา
รายงานฉบับนี้ซึ่งจัดทำเป็นปีที่ 11 ประเมิน 135 ประเทศทั่วโลกจากตัวชี้วัด 77 รายการ ครอบคลุมความสามารถของแต่ละประเทศในการพัฒนา ดึงดูด และรักษาบุคลากรในยุคที่แรงงานต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยระบุว่า ความผันผวนในปีนี้ยิ่งทำให้ข้อมูลด้านบุคลากรกลายเป็นปัจจัยเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งขึ้น
สำหรับ สิงคโปร์ ผลการจัดอันดับสะท้อนความโดดเด่นใน 4 จาก 6 เสาหลัก โดยเฉพาะระบบการศึกษาที่มีคุณภาพสูง กฎระเบียบที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการรักษาบุคลากรที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สรุปข่าว
สำนักข่าว CNBC รายงานว่า สิงคโปร์ผงาดคว้าอันดับ 1 ด้านความสามารถในการแข่งขันของบุคลากรโลกประจำปี 2025 จากรายงาน Global Talent Competitiveness Index (GTCI) ซึ่งจัดทำโดยโรงเรียนธุรกิจ INSEAD ร่วมกับสถาบันวิจัย Portulans Institute ในสหรัฐ ถือเป็นครั้งแรกที่สิงคโปร์แซงสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งครองอันดับสูงสุดมาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา
รายงานฉบับนี้ซึ่งจัดทำเป็นปีที่ 11 ประเมิน 135 ประเทศทั่วโลกจากตัวชี้วัด 77 รายการ ครอบคลุมความสามารถของแต่ละประเทศในการพัฒนา ดึงดูด และรักษาบุคลากรในยุคที่แรงงานต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยระบุว่า ความผันผวนในปีนี้ยิ่งทำให้ข้อมูลด้านบุคลากรกลายเป็นปัจจัยเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งขึ้น
สำหรับ สิงคโปร์ ผลการจัดอันดับสะท้อนความโดดเด่นใน 4 จาก 6 เสาหลัก โดยเฉพาะระบบการศึกษาที่มีคุณภาพสูง กฎระเบียบที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการรักษาบุคลากรที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โดยไต่อันดับขึ้นถึง 7 ขั้นจากปี 2566 รวมถึงความแข็งแกร่งของทักษะกลุ่ม Generalist Adaptive Skills เช่น ทักษะดิจิทัล ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการทำงานข้ามสายงาน
รายงานยังระบุปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้สิงคโปร์ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ ความปลอดภัยส่วนบุคคล สิทธิส่วนบุคคล และจำนวนแพทย์ต่อประชากรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งต่างสนับสนุนให้ตลาดแรงงานมีเสถียรภาพและดึงดูดผู้มีความสามารถจากทั่วโลกได้มากขึ้น
ขณะที่ ยุโรป ยังคงครองความได้เปรียบ โดย 7 ประเทศในท็อป 10 มาจากยุโรปตอนเหนือและตะวันตก ขณะที่สหรัฐหล่นลงมาอยู่อันดับ 9 ซึ่งเป็นอันดับต่ำที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ จากคะแนนด้านความเปิดกว้าง (openness) และการเรียนรู้ตลอดชีวิต (lifelong learning) ที่ลดลงเล็กน้อย
ประเทศกลุ่มนอร์ดิกหลายประเทศ ได้แก่ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ และสวีเดน ขยับอันดับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยรักษาความแข็งแกร่งด้านการคงบุคลากรและการเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ
ที่มาข้อมูล : สำนักข่าว CNBC
ที่มารูปภาพ : TNN
