
ธนาคารทหารไทยธนชาต [TTB] เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการของธนาคาร ครั้งที่ 2/2568 อนุมัติการเข้าซื้อหุ้น 89.97% ของ บล.ธนชาต หรือจำนวนหุ้น 2,698,9598,721 หุ้น มูลค่า 3,000 ล้านบาท จาก บมจ.ทุนธนชาต [TCAP] เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของธนาคาร
โดยอาศัยจุดแข็งของ บล.ธนชาต ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่งและมีประสบการณ์ในธุรกิจยาวนาน โดยจะเสนอการประชุมสามัญประจำปี 2568 ในวันที่ 21 เม.ย.68 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเข้าทำรายการ คาดว่าธุรกรรมจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3/68
สรุปข่าว
ธนาคารทหารไทยธนชาต [TTB] เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการของธนาคาร ครั้งที่ 2/2568 อนุมัติการเข้าซื้อหุ้น 89.97% ของ บล.ธนชาต หรือจำนวนหุ้น 2,698,9598,721 หุ้น มูลค่า 3,000 ล้านบาท จาก บมจ.ทุนธนชาต [TCAP] เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของธนาคาร
โดยอาศัยจุดแข็งของ บล.ธนชาต ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่งและมีประสบการณ์ในธุรกิจยาวนาน โดยจะเสนอการประชุมสามัญประจำปี 2568 ในวันที่ 21 เม.ย.68 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเข้าทำรายการ คาดว่าธุรกรรมจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3/68
ธนาคารจะใช้แหล่งเงินทุนภายใน ได้แก่ ส่วนเกินจากส่วนทุนที่มีอยู่ โดยการเข้าทำธุรกรรมนี้ไม่มีผลกระทบต่อนโยบายการจ่ายเงินปันผล และดำรงเงินกองทุนของธนาคารฯ เนื่องจากที่ผ่านมาดำรงเงินกองทุนในระดับสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างมีนัยสำคัญมาโดยตลอด
สะท้อนได้จากอัตราส่วนเงินกองทุนรวม (CAR) ของธนาคารอยู่ที่ 19.3% และอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Tier 1) อยู่ที่ 16.9% ณ สิ้นปี 67 เทียบกับเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารกลุ่ม D-SIBs ที่ธปท.กำหนดไว้ที่ 12% และ 9.5% ตามลำดับ
แผนการใช้เงินทุนดังกล่าว เป็นไปตามแนวทางในการบริหารจัดการส่วนทุน (Capital Management) อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่เกี่ยวเนื่องกับการให้บริการและยกระดับประสบการณ์ลูกค้า การสร้างโอกาสในการขยายขอบเขตงานให้กับพนักงานและการสร้างการเติบดตอย่างมีคุณภาพและผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
ผลประโยชน์ทางธุรกิจ (Synergy) ที่จะเกิดขึ้นใน 3 ด้านหลัก ได้แก่
1.ผลประโยชน์ด้านรายได้ (Revenue Synergy) ที่จะเกิดจากการยกระดับการให้บริการผ่านจุดแข็งของบล.ธนชาต ซึ่งเป็ฯบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำที่อยู่ในธุรกิจมาอย่างยาวนานและมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ย่อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าหากเข้ามาเป็นบริษัทย่อยของธนาคารฯที่จะเข้ามาช่วยเสริมการให้บิรการสำหรับลูกค้ารายย่อยกลุ่ม Wealth Ecosystem โดยเฉพาะอย่วงยิ่งในด้านการลงทุนได้มีความครบครันในที่เดียว (one stop) และช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการพอร์ตความมั่งคั่ง ได้ครบทุกแง่ทุกมุมการลงทุนแบบ 360 องศา นอกจากนี้ยังช่วยสนับสนุนบริการวาณิชธนกิจ บริการด้านตลาดทุน และการนำเสนอเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ สำหรับลูกค้าธุรกิจให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2.ผลประโยชน์ด้านต้นทุนการเงิน (Funding Synergy) ที่จะเกิดความยืดหยุ่นและทางเลือกในการจัดหาเงินทุน รวมไปถึงโอกาสในการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของธนาคารฯ เพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุนสำหรับ บล.ธนชาต ในการให้บริการลูกค้า ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะช่วยให้การให้บริหารต้นทุนทางการเงินของทั้งธนาคาร และบล.ธนชาตมีประสิทธิภาพมายิ่งขึ้น
3.การรับรู้ผลประโยชน์ด้านต้นทุน (Cost Synergy) จากการปรับปรุงกระบวนการทำงานภายใน และใช้ Facility ร่วมกันในการให้บริการด้านการลงทุน วาณิชธนกิจ และบริการที่เกี่ยวเนื่องกับตลาดทุน
- TCAP อวดกำไรไตรมาส 1/68 โต 18.9% แตะ 1,710 ล้านบาท
- "TTB" พร้อม "KTB" ปัดควบรวมกิจการ ยืนยันไม่อยู่ในแผน เดินหน้ายกระดับองค์กร เพิ่มศักยภาพ
- ทีทีบี ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีการเงิน เปิดตัว ‘ttb spark REAL change’ ขับเคลื่อนนวัตกรรม พลิกโฉมอนาคตการเงินไทย
- TTB เด้งรับมติบอร์ดแบงก์อนุมัติให้ซื้อหุ้น 2.1 หมื่นล้านในปี 68-70
- ธปท. เผยแพร่ข้อมูลสถิติ "Mobile Banking" ล่ม ในไตรมาส 3 ปี 65 ธนาคารทหารไทยธนชาต ล่มมากที่สุดและนานที่สุด
- TCAP แจงงบ 1Q65 กำไรลดลง 3.90 % ตั้งสำรองพิเศษเพิ่ม
- 'ทีเอ็มบีธนชาต'ประกาศกลยุทธ์ปี 65 ปรับโฉม 'ทีทีบี ทัช' ดันขยายฐานผู้ใช้ดิจิทัลแบงก์
ที่มาข้อมูล : บริษัทจดทะเบียน, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ที่มารูปภาพ : TNN
