คุณณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ได้วิเคราะห์แนวโน้มตลาดหุ้นผ่านทางรายการ WEALTH LIVE วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ว่าช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกและภายใน นักลงทุนจับตาแนวรับสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยยังคงเผชิญแรงกดดันจากหลายปัจจัย ทั้งภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ สงครามการค้าระดับโลกที่ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัด การปรับลดน้ำหนักหุ้นใน MSCI ที่ส่งผลให้ต่างชาติขายหุ้นออก และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ต่ำกว่าคาดการณ์ โดย SET Index อยู่ในช่วงทดสอบแนวรับสำคัญ 1,180 จุด นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของตลาดอย่างใกล้ชิด
สรุปข่าว
คุณณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ได้วิเคราะห์แนวโน้มตลาดหุ้นผ่านทางรายการ WEALTH LIVE วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ว่าช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกและภายใน นักลงทุนจับตาแนวรับสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยยังคงเผชิญแรงกดดันจากหลายปัจจัย ทั้งภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ สงครามการค้าระดับโลกที่ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัด การปรับลดน้ำหนักหุ้นใน MSCI ที่ส่งผลให้ต่างชาติขายหุ้นออก และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ต่ำกว่าคาดการณ์ โดย SET Index อยู่ในช่วงทดสอบแนวรับสำคัญ 1,180 จุด นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของตลาดอย่างใกล้ชิด
ตลาดหุ้นไทยยังคงเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายในและภายนอก โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อตลาดในขณะนี้มี 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่:
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย
แม้ว่าการปรับลดดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินของบริษัทจดทะเบียน และส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่ปัจจัยลบอื่น ๆ ยังคงกดดันตลาด ทำให้ผลเชิงบวกของมาตรการดังกล่าวไม่สามารถหนุนตลาดได้มากนักในระยะสั้น
สงครามการค้าระหว่างประเทศ
สหรัฐฯ ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดเกี่ยวกับกำหนดการจัดเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศคู่ค้า โดยล่าสุดมีแนวโน้มว่าภาษีนำเข้าชุดใหม่อาจเริ่มมีผลตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกมีความผันผวน และนักลงทุนยังคงจับตาการเคลื่อนไหวของนโยบายภาษีอย่างใกล้ชิด
การปรับโครงสร้างดัชนี MSCI
การปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยในดัชนี MSCI ส่งผลให้หุ้นขนาดใหญ่บางตัว เช่น PTTGC และ TOP ถูกถอดออกจากดัชนี ทำให้เกิดกระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดไทย โดยคาดว่ามูลค่าการขายสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติอาจสูงถึง 80 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท
ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
แม้ว่าโดยรวมผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะต่ำกว่าตลาดคาดการณ์เพียง 6% ซึ่งยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ แต่หุ้นที่มีผลประกอบการต่ำกว่าคาดถูกเทขายอย่างหนัก โดยบางตัวราคาปรับลดลงถึง 10-15% ขณะที่หุ้นที่ทำได้ดีกว่าคาดกลับปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย
คุณณัฐพล คำถาเครือ วิเคราะห์ว่า SET Index กำลังทดสอบแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,180 จุด ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่ตลาดเคยลงไปแตะในเดือนตุลาคม ปี2020 หากแนวรับนี้ไม่สามารถยืนได้ ตลาดอาจมีโอกาสปรับตัวลงไปทดสอบจุดต่ำสุดในช่วงโควิดที่ 969 จุด อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญคือ Market Cap ของตลาดหุ้นไทยเมื่อเทียบกับ GDP อยู่ที่ 80% ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงวิกฤตโควิด ทำให้มีโอกาสที่ตลาดจะเริ่มเข้าสู่จุดฟื้นตัวในระยะกลาง
ที่มาข้อมูล : คุณณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
ที่มารูปภาพ : รายการ WEALTH LIVE 28 กุมภาพันธ์ 2568

TNNThailand