ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม: จีน-เฟด-สงครามการค้า

สัปดาห์หน้า ตลาดจะให้ความสำคัญกับ 2 ปัจจัยหลัก:

1. ตัวเลขเศรษฐกิจจีน – หากยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรออกมาดีกว่าคาด จะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีของไทยที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีน
2. ผลประชุม FOMC ของเฟด – แม้เฟดไม่น่าจะลดดอกเบี้ย แต่ตลาดจับตา "Dot Plot" และประมาณการเศรษฐกิจ หากเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาด (มากกว่า 3 ครั้งในปีนี้) จะเป็นบวกต่อตลาดเกิดใหม่ รวมถึงหุ้นไทย

นอกจากนี้ วันที่ 2 เมษายน ต้องจับตาการประกาศจัดเก็บภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดการค้าโลก

กลยุทธ์การลงทุน: เลือกหุ้นตามความเสี่ยง

• นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง – หุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี เช่น PTTGC อาจมีโอกาสรีบาวด์หากตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาดี
• นักลงทุนที่เน้นความปลอดภัย – อาจรอให้ตลาดมีปัจจัยบวกที่ชัดเจนก่อนเข้าลงทุน

อสังหาริมทรัพย์: ลุ้นมาตรการรัฐ-แรงหนุนจากปันผล

กลุ่มอสังหาฯ มีแนวโน้มทรงตัว โดยมีแรงหนุนจากการขึ้น XD ของหุ้นบางตัว เช่น แสนสิริ (SIRI) และศุภาลัย (SPALI) สัปดาห์หน้า นักลงทุนจับตาการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง หากมาตรการนี้ขยายวงเงินเป็น 7 ล้านบาท จะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ได้

หุ้นเด่น:

• SIRI แนวรับ 1.66 บาท แนวต้าน 1.72 บาท หากทะลุมีโอกาสขึ้นต่อถึง 1.80 บาท
• SPALI แนวรับ 16.30 บาท แนวต้าน 17.30-17.40 บาท