หอการค้าฯ เเนะรัฐเช็กเข้มเหตุแผ่นดินไหว เพิ่มระบบเตือนภัยพิบัติ- เยียวยา SME -คุมราคาวัสดุก่อสร้าง

หอการค้าฯ เเนะรัฐเช็กเข้มเหตุแผ่นดินไหว  เพิ่มระบบเตือนภัยพิบัติ- เยียวยา SME -คุมราคาวัสดุก่อสร้าง

หอการค้าไทย นำเสนอแนวทางต่อภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อจัดการด้านความปลอดภัยต่อระบบภัยพิบัติ รวมไปถึงการสร้างมาตรฐานใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และภาคธุรกิจ ภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ในประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 และส่งผลกระทบถึงประเทศไทยในหลายพื้นที่ ดังนี้

1. เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ในตึกอาคารอย่างรวดเร็วที่สุด โดยร่วมมือกับหน่วยงานภายในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริง เพื่อเป็นแบบอย่างในการป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต

2. กำหนดให้มีตรวจสอบโครงสร้างอาคาร ทั้งสำนักงาน โรงงาน อาคารสูง และสิ่งปลูกสร้างในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย รวมถึงสอบหาข้อเท็จจริงถึงปัญหาที่เกิดเหตุขึ้น

สรุปข่าว

หอการค้าไทย นำเสนอแนวทางต่อภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อจัดการด้านความปลอดภัยต่อระบบภัยพิบัติ รวมไปถึงการสร้างมาตรฐานใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และภาคธุรกิจ

หอการค้าไทย นำเสนอแนวทางต่อภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อจัดการด้านความปลอดภัยต่อระบบภัยพิบัติ รวมไปถึงการสร้างมาตรฐานใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และภาคธุรกิจ ภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ในประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 และส่งผลกระทบถึงประเทศไทยในหลายพื้นที่ ดังนี้

1. เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ในตึกอาคารอย่างรวดเร็วที่สุด โดยร่วมมือกับหน่วยงานภายในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริง เพื่อเป็นแบบอย่างในการป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต

2. กำหนดให้มีตรวจสอบโครงสร้างอาคาร ทั้งสำนักงาน โรงงาน อาคารสูง และสิ่งปลูกสร้างในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย รวมถึงสอบหาข้อเท็จจริงถึงปัญหาที่เกิดเหตุขึ้น

3. เร่งจัดทำระบบเตือนภัยพิบัติไปสู่ภาคประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องมีโดยด่วน และการจัดทำแผนบริหารความเสี่ยง และซักซ้อมแผนฉุกเฉิน ในกรณีภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั้งภาคประชาชน ภาคสังคม และภาคธุรกิจ พร้อมสนับสนุนระบบสื่อสารฉุกเฉิน และอบรมเจ้าหน้าที่ในสถานประกอบการ

4. การส่งเสริมมาตรฐานผู้ออกแบบ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ระบบควบคุมอาคารและการควบคุมให้เป็นไปตามมาตรฐานในทุกจังหวัด โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ เพื่อเสริมความเชื่อมั่นต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์

5. เร่งรัดมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประกอบการรายย่อย SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ รวมถึงการประสานผู้ประกอบการด้านก่อสร้างและวัสดุ เพื่อซ่อมแซมอาคารและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพ ราคาประหยัด อันจะเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน

6. การสื่อสารเชิงรุก เชิงบวกและสร้างความเข้าใจร่วมกับภาคีเครือข่ายในทุกจังหวัด เพื่อให้ประชาชนและนักลงทุนมั่นใจว่าไทยสามารถบริหารสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7. รัฐบาลควรมีหน่วยงานกลางที่จะเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ เพื่อสื่อสารให้ทันเวลา โปร่งใส อย่างถูกต้องตามสถานการณ์ที่เป็นจริงให้กับสาธารณชนและต่างประเทศได้รับทราบ

8. หอการค้าไทย กำลังดำเนินการจัดตั้งศูนย์ช่วยแก้ไขปัญหาการช่วยเหลือ SMEs และสมาชิก อาทิ การช่วยเหลือซ่อมแซมอาคารที่ได้รับผลกระทบ หรือมาตรการสินเชื่อ เพื่อแก้ไขผลกระทบดังกล่าว

ที่มาข้อมูล : หอการค้าไทย

ที่มารูปภาพ : TNN Wealth