รัฐบาลปักกิ่งได้ออกมาเตือนประเทศต่างๆ ว่าทางการจีนจะคัดค้านอย่างเต็มที่ หากมีฝ่ายใดหรือประเทศใดก็ตามทำข้อตกลงที่ทำให้จีนเสียประโยชน์ และหากสิ่งนี้เกิดขึ้น จีนก็จะไม่ยอมรับและจะใช้มาตรการตอบโต้กลับที่เด็ดขาดและเท่าเทียม พร้อมย้ำอีกด้วยว่า รัฐบาลจีนมีความมุ่งมั่นและมีศักยภาพเพียงพอที่จะปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของจีน และในขณะเดียวกันก็ยินดีที่จะกระชับความร่วมมือกับทุกๆ ฝ่ายด้วย เพื่อปกป้องความเป็นธรรมในระบบการค้าโลก
สรุปข่าว
นอกจากนี้ทางโฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนยังได้ตอบโต้ไปถึงสหรัฐ โดยประณามสหรัฐฯ ว่าใช้นโยบาย “กลั่นแกล้งฝ่ายเดียว” และ “บิดเบือนภาษีเพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง” ระบุว่า สหรัฐใช้ภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือกดดันคู่ค้าทุกประเทศ โดยอ้างสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าเท่าเทียม แต่ในขณะเดียวกันก็บีบให้ทุกประเทศต้องยอมเจรจาด้วย
พร้อมเตือนอีกว่า หากระบบการค้าระหว่างประเทศต้องกลับไปสู่ “กฎแห่งป่า” ที่ไม่มีระเบียบหรือกติกากลาง โลกจะต้องเผชิญความเสี่ยงร้ายแรง
ท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐฯ จีนยังได้เพิ่มความพยายามสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางการทูตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป เช่น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เดินทางเยือน 3 ชาติ อาเซียน ได้แก่ เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา นับเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกในปีนี้ เพื่อตอกย้ำแนวคิด “ครอบครัวเอเชีย” รับมือกับแรงกดดันจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ
ที่มาข้อมูล : TNN WEALTH
ที่มารูปภาพ : CANVA