
"หวัง อี้" รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ได้ออกมากล่าวเตือนนานาประเทศระหว่างการประชุมกลุ่ม BRICS ณ ประเทศบราซิล ขอให้ทุกประเทศอย่ายอมจำนนต่อภัยคุกคามจากมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา ขณะที่ฟากฝั่งรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็เผยว่า อาจมีการใช้เครื่องมือการค้าใหม่ ๆ เพื่อกดดันจีนเพิ่มขึ้นอีก
นายหวังได้กล่าว เมื่อวันจันทร์ (28 เมษายน 2568 ) ว่า สหรัฐฯ ซึ่งได้รับประโยชน์มหาศาลจากการค้าเสรีมาอย่างยาวนาน กำลังใช้ภาษีศุลกากรเพื่อต่อรองราคาสินค้าที่สูงเกินจริงจากทุกประเทศ หากใครเลือกที่จะนิ่งเฉย ประนีประนอม และขลาดกลัว ก็มีแต่จะทำให้ผู้กลั่นแกล้งได้ใจมากขึ้น พร้อมกระตุ้นให้สมาชิกของกลุ่ม BRICS ลุกขึ้นมาต่อต้านการจัดเก็บภาษีของสหรัฐฯ
คำพูดของรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน นับว่าเป็นการสะท้อนความพยายามของจีนในการแสดงบทบาทผู้นำด้านการค้าเสรี ในขณะที่มาตรการภาษีของสหรัฐฯ กำลังสั่นคลอนระบบการค้าโลก โดยจีนเรียกร้องให้พันธมิตรยืนหยัดปกป้องระเบียบพหุภาคี และเตือนรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ไม่ให้เจรจากับสหรัฐฯ ด้วยเงื่อนไขที่ทำให้จีนเสียเปรียบ พร้อมเตือนว่าจะมีการตอบโต้กลับอย่างเด็ดขาดและเท่าเทียม
สรุปข่าว
"หวัง อี้" รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ได้ออกมากล่าวเตือนนานาประเทศระหว่างการประชุมกลุ่ม BRICS ณ ประเทศบราซิล ขอให้ทุกประเทศอย่ายอมจำนนต่อภัยคุกคามจากมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา ขณะที่ฟากฝั่งรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็เผยว่า อาจมีการใช้เครื่องมือการค้าใหม่ ๆ เพื่อกดดันจีนเพิ่มขึ้นอีก
นายหวังได้กล่าว เมื่อวันจันทร์ (28 เมษายน 2568 ) ว่า สหรัฐฯ ซึ่งได้รับประโยชน์มหาศาลจากการค้าเสรีมาอย่างยาวนาน กำลังใช้ภาษีศุลกากรเพื่อต่อรองราคาสินค้าที่สูงเกินจริงจากทุกประเทศ หากใครเลือกที่จะนิ่งเฉย ประนีประนอม และขลาดกลัว ก็มีแต่จะทำให้ผู้กลั่นแกล้งได้ใจมากขึ้น พร้อมกระตุ้นให้สมาชิกของกลุ่ม BRICS ลุกขึ้นมาต่อต้านการจัดเก็บภาษีของสหรัฐฯ
คำพูดของรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน นับว่าเป็นการสะท้อนความพยายามของจีนในการแสดงบทบาทผู้นำด้านการค้าเสรี ในขณะที่มาตรการภาษีของสหรัฐฯ กำลังสั่นคลอนระบบการค้าโลก โดยจีนเรียกร้องให้พันธมิตรยืนหยัดปกป้องระเบียบพหุภาคี และเตือนรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ไม่ให้เจรจากับสหรัฐฯ ด้วยเงื่อนไขที่ทำให้จีนเสียเปรียบ พร้อมเตือนว่าจะมีการตอบโต้กลับอย่างเด็ดขาดและเท่าเทียม
ท่าทีของจีนครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาขณะที่สหรัฐฯ ออกมายืนยันว่าประเทศจีนต้องเป็นฝ่ายเริ่มลดความตึงเครียดก่อน โดย "สกอตต์ เบสเซนต์" รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า สหรัฐฯ มีขั้นตอนการยกระดับแรงกดดัน พร้อมย้ำว่ายังไม่ต้องการใช้อำนาจนั้น หากไม่จำเป็น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแรงกดดันที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเผชิญเพื่อผลักดันให้จีนกลับมาสู่การเจรจา
เบสเซนต์กล่าวว่า สหรัฐฯ มีลำดับขั้นของการกดดันและไม่มีความกังวลที่จะดำเนินการ ซึ่งสะท้อนถึงความเร่งด่วนที่เพิ่มมากขึ้นของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะนำจีนเข้าสู่โต๊ะเจรจา
แต่อย่างไรก็ตามทางการจีนได้ออกมาตอบปฏิเสธหลายครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ไม่เคยและไม่ได้มีส่วนร่วมในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯแต่อย่างใด ไม่มีการยกหูโทรศัพท์ระหว่างสองผู้ประเทศ และเลือกที่จะเรียกร้องให้สหรัฐฯ แสดงความเคารพซึ่งกันและกัน รวมถึงขอให้สหรัฐฯหันไปยกเลิกภาษีศุลกากรใด ๆ ก็ตามที่มีกับจีนก่อน ถึงจะเริ่มการเจรจาได้
- ทรัมป์ลุยเพิ่มภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม 50% หวังดันอุตสาหกรรมในประเทศ
- "ทรัมป์" ชื่นชม "อีลอน มัสก์" ย้ำมัสก์ไม่ได้ลาขาดจาก DOGE จะกลับมาเป็นพัก ๆ
- ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากเดิม 25 เปอร์เซ็นต์ เป็น 50 เปอร์เซ็นต์
- "ธนาคารแห่งประเทศไทย"ชี้งบ 1.57 แสนล้าน ช่วย"เศรษฐกิจ"ปรับตัวได้
- วิกฤตหนี้สหรัฐฯ "36 ล้านล้านเหรียญ" ที่ "ทรัมป์" ต้องแบกหลังแอ่น
- จีนเลิก "แบน" อาหารทะเลญี่ปุ่น จ่อนำเข้าอีกครั้ง
- "คนจีน" ไม่กล้าใช้จ่าย 80 % หันออมเงิน แม้ดอกเบี้ยต่ำ
ที่มาข้อมูล : IQ
ที่มารูปภาพ : Freepik canva
