"COM7" บุกตลาดโซลาร์รูฟ เจาะกลุ่มครัวเรือน แบ่งเค้กมาร์เก็ตแชร์ 60,000 ลบ.

โดยในปี 2567 มีมูลค่ารวมสูงถึง 60,623 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดคอมเมอร์เชียลประมาณ 90% และตลาดครัวเรือนเพียง 10% ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการขยายฐานผู้ใช้พลังงานสะอาดในระดับครัวเรือน โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการบริหารค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

แบรนด์ Auris ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคในครัวเรือนโดยเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยี Micro Inverter 3rd Generation ได้รับการคิดค้นโดย ATMOCE LAB ในประเทศเยอรมนี เป็น Solar Rooftop ระบบ Micro Inverter ที่แปลงพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นกำลังไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ถึง 625 Watts ซึ่งเป็นการแปลงกำลังไฟฟ้าที่สูงที่สุดในตลาด Solar Rooftop ในปัจจุบัน และมีอยู่ใน Auris แบรนด์เดียวเท่านั้น นอกจากเน้นที่การแปลงกำลังไฟฟ้าที่สูงแล้ว ความปลอดภัยก็เป็นอีกอย่างที่ Auris ให้ความสำคัญอย่างเต็มที่ โดยการใช้ แบตเตอรี่ ELV แรงดันต่ำที่ปลอดภัยกับทุกคนในครอบครัว

ระบบ Micro Inverter 3rd Generation ของ Auris ผลิตกำลังไฟฟ้าอิสระแบบแผงต่อแผง จึงเหมาะกับที่อยู่อาศัยทุกประเภททุกขนาด ตั้งแต่ทาวน์โฮมขนาดเล็กไปจนถึงบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ หรือแม้แต่บ้านที่หลังคารับแดดแค่บางส่วนก็สามารถผลิตกำลังไฟฟ้าได้ด้วย Auris

นางสนธยา ธัง กล่าวอีกว่า ในปีนี้ COM7 จะเดินหน้าผลักดัน Auris ผ่านช่องทางของบริษัทที่หลากหลายเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้าง โดยมีแผนการจัดจำหน่ายที่ BaNANA Solar, BaNANA IT, Bb Beyond D-Box, B-Play, และ BaNANA Franchise รวมแล้วกว่า 100 แห่งทั่วไทย โดยให้บริการในรูปแบบครบวงจร ตั้งแต่สำรวจสถานที่, แนะนำระบบ Solar Rooftop ที่เหมาะกับพฤติกรรมการใช้ไฟและทิศทางการรับแดดของบ้านแต่ละหลัง, ติดตั้งฟรี และมีบริการดูแลหลังการขายที่สะดวกและเข้าถึงง่าย