จับตา CPI สหรัฐฯ และการเจรจาการค้ากับจีน

ผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ยังไม่เร่งปรับสถานะ ถือเงินสดและรอดูความคืบหน้าของประเด็นสำคัญ 2 ประการ ได้แก่ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ และแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งอาจส่งผลสำคัญต่อทิศทางของตลาดการเงินทั่วโลก

ทองคำรีบาวด์จำกัด จากแรงขายทำกำไร

ราคาทองคำ (XAUUSD) มีจังหวะรีบาวด์ขึ้นจากระดับแนวรับราว 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่การปรับตัวขึ้นยังจำกัด เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนทยอยขายทำกำไร ขณะที่ราคาทองคำสัญญาส่งมอบเดือนสิงหาคม 2025 เคลื่อนไหวอยู่แถว 3,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ตลาดหุ้นโลกทรงตัว รอปัจจัยใหม่

• ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวทรงตัว โดย S&P500 ปิดบวกเล็กน้อย +0.09% และ Nasdaq ปรับขึ้น +0.31% จากแรงหนุนของหุ้น Amazon (+1.6%) และ Tesla (+4.6%)
• ตลาดหุ้นยุโรปโดยดัชนี STOXX600 ย่อตัวเล็กน้อย -0.07% จากการซื้อขายเบาบางในวันหยุด Whit Monday

ตลาดบอนด์นิ่ง รอข้อมูลเงินเฟ้อ

บอนด์ยีลด์ 10 ปีของสหรัฐฯ เคลื่อนไหวแถวระดับ 4.50% นักลงทุนยังไม่ปรับพอร์ตการลงทุนครั้งใหญ่ รอความชัดเจนของตัวเลขเศรษฐกิจและทิศทางนโยบายการคลังของสหรัฐฯ

ดอลลาร์เคลื่อนไหว Sideways เยนยังอ่อนค่า

เงินดอลลาร์ยังแกว่งตัวในกรอบ 98.8-99.2 จุด จากแรงกดดันของเยนที่อ่อนค่าเหนือระดับ 144 เยนต่อดอลลาร์ แต่ยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ โดยรวมยังอยู่ในภาวะระมัดระวัง

ปัจจัยที่ต้องติดตามใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า

รายงานข้อมูลตลาดแรงงานอังกฤษ โดยเฉพาะอัตราการจ้างงานและการเติบโตของค่าจ้าง ซึ่งอาจส่งผลต่อความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของ BOE

รายงานความเชื่อมั่นภาคธุรกิจขนาดเล็ก (NFIB) ของสหรัฐฯ ซึ่งจะสะท้อนภาวะการจ้างงานในกลุ่มธุรกิจ SME

แนวโน้มเงินบาทระยะสั้น: ผันผวน-เฝ้าราคาทองคำ

Krungthai GLOBAL MARKETS คาดว่า เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.75 บาทต่อดอลลาร์ โดยราคาทองคำยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสองทาง (Two-Way Risk) หากราคาทองคำปรับขึ้น อาจหนุนให้เงินบาทแข็งค่าได้ แต่หากทองคำอ่อนตัวลง อาจกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงตาม

แนะบริหารความเสี่ยง ใช้เครื่องมือป้องกันค่าเงิน

เนื่องจากตลาดยังมีความผันผวนสูง นักลงทุนและผู้ประกอบการควรพิจารณาใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยง ทั้งผ่านเครื่องมือ Options และการใช้สกุลเงินท้องถิ่น เช่น CNYTHB ซึ่งมีความผันผวนน้อยกว่า USDTHB