ครม.ไฟเขียว "พ.ร.บ.ศูนย์กลางการเงิน" ดันไทยสู่ Financial Hub ภูมิภาค

ครม.ไฟเขียว "พ.ร.บ.ศูนย์กลางการเงิน" ดันไทยสู่ Financial Hub ภูมิภาค

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน พ.ศ. ... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาแล้วเสร็จ โดยร่าง พ.ร.บ. "Financial Hub" นี้ จะถูกบรรจุวาระและเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรวาระที่ 1 ทันที


ทั้งนี้ พ.ร.บ. Financial Hub นี้ จะช่วยยกระดับให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่ศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค ยกเครื่องการพิจารณาใบอนุญาต และการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจภายใต้ Financial Hub ให้มีความครบวงจร และเอื้อต่อการประกอบธุรกิจ ดึงดูดการลงทุน รวมทั้งให้มีหน่วยงานหลักกำหนดนโยบายในการส่งเสริมให้ไทยเป็น Financial Hub และกำหนดนโยบายในการพัฒนาระบบนิเวศของอุตสาหกรรมการเงิน (Ecosystem) ทั้งการพัฒนาบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานให้สอดรับกับความต้องการของบริษัทด้านการเงินระดับโลก


โดยกำหนดรายละเอียดธุรกิจเป้าหมายใน Financial Hub จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงินให้เป็นหน่วยงานให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One-stop Authority: OSA) กำหนดคุณสมบัติของผู้ประกอบธุรกิจ และกลไกการขออนุญาต กำหนดสิทธิประโยชน์เพื่อจูงใจนักลงทุน รวมไปถึงแนวทางการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามหลักสากล

สรุปข่าว

ครม.ไฟเขียว "พ.ร.บ.ศูนย์กลางการเงิน" ดันไทยสู่ Financial Hub ภูมิภาค

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน พ.ศ. ... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาแล้วเสร็จ โดยร่าง พ.ร.บ. "Financial Hub" นี้ จะถูกบรรจุวาระและเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรวาระที่ 1 ทันที


ทั้งนี้ พ.ร.บ. Financial Hub นี้ จะช่วยยกระดับให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่ศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค ยกเครื่องการพิจารณาใบอนุญาต และการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจภายใต้ Financial Hub ให้มีความครบวงจร และเอื้อต่อการประกอบธุรกิจ ดึงดูดการลงทุน รวมทั้งให้มีหน่วยงานหลักกำหนดนโยบายในการส่งเสริมให้ไทยเป็น Financial Hub และกำหนดนโยบายในการพัฒนาระบบนิเวศของอุตสาหกรรมการเงิน (Ecosystem) ทั้งการพัฒนาบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานให้สอดรับกับความต้องการของบริษัทด้านการเงินระดับโลก


โดยกำหนดรายละเอียดธุรกิจเป้าหมายใน Financial Hub จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงินให้เป็นหน่วยงานให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One-stop Authority: OSA) กำหนดคุณสมบัติของผู้ประกอบธุรกิจ และกลไกการขออนุญาต กำหนดสิทธิประโยชน์เพื่อจูงใจนักลงทุน รวมไปถึงแนวทางการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามหลักสากล

โดยในร่าง พ.ร.บ. Financial Hub ดังกล่าว ประกอบด้วย 9 หมวด รวม 94 มาตรา ดังนี้


บททั่วไป ซึ่งเป็นการกำหนดวันที่บังคับใช้ร่าง พ.ร.บ. และนิยามที่เกี่ยวข้อง


หมวด 1 

: คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน ซึ่งเป็นการกำหนดองค์ประกอบ และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการให้กำกับดูแลกิจการ ภายใต้โครงการ Financial Hub อย่างครบวงจร ตั้งแต่การกำหนดหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจ การให้ใบอนุญาต การตรวจสอบการดำเนินงาน และการเพิกถอนใบอนุญาต


หมวด 2 

: สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน ซึ่งเป็นการตั้งสำนักงานเพื่อให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One-stop Authority: OSA) และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ ทั้งการพิจารณาใบอนุญาตและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ


หมวด 3 

: ผู้อำนวยการ ซึ่งเป็นการกำหนดคุณสมบัติ และวิธีการแต่งตั้งผู้บริหารจัดการสำนักงาน


หมวด 4 

: การอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเป้าหมาย ซึ่งเป็นการกำหนดประเภท และขอบเขตของธุรกิจที่จะได้รับอนุญาต และการกำหนดคุณลักษณะของนิติบุคคล ที่ประสงค์จะยื่นคำขอประกอบธุรกิจ


หมวด 5 

: การส่งเสริมสิทธิประโยชน์ ซึ่งเป็นการกำหนดสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกอบธุรกิจจะได้รับ หากมาจัดตั้งธุรกิจภายใต้ Financial Hub


หมวด 6 

: การกำกับดูแลการประกอบธุรกิจภายใต้การส่งเสริม ซึ่งเป็นการกำหนดแนวทางในการกำกับดูแลธุรกิจ ภายใต้ Financial Hub ซึ่งได้พิจารณาให้ครอบคลุมแนวทางการกำกับดูแลธุรกิจด้านการเงินในปัจจุบัน ทั้งธุรกิจสถาบันการเงิน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจประกันภัย


หมวด 7

: พนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นการกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน สามารถตรวจสอบกิจการของผู้ประกอบธุรกิจได้


หมวด 8 และ 9 

: มาตรการปรับเป็นพินัย และโทษทางอาญา ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษ ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่กำหนด

ที่มาข้อมูล : รัฐบาลไทย

ที่มารูปภาพ : Freepik