รศ.ดร.อนุสรณ์ ชี้ทางรอด "กับดักรายได้ปานกลาง"

รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH X ชี้ว่าประเทศไทยยังติดอยู่ในกับดักรายได้ปานกลางมานานหลายทศวรรษ แม้จะเคยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ก้าวกระโดดในช่วงปีพ.ศ. 2530 จากการเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่นหลังข้อตกลง Plaza Accord และการพัฒนาโครงการ Eastern Seaboard แต่การเติบโตดังกล่าวเป็นการพึ่งพาเทคโนโลยีและการลงทุนจากภายนอกเป็นหลัก

สรุปข่าว

ทำไมเศรษฐกิจไทยโต แต่คนไทยส่วนใหญ่ไม่รวยขึ้น? รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.หอการค้าไทย วิเคราะห์ถึงรากเหง้าปัญหา "กับดักรายได้ปานกลาง" ที่ฉุดรั้งประเทศไทยมานานหลายสิบปี ชี้ว่าการเติบโตที่พึ่งพาต่างชาติโดยขาดนวัตกรรมของตนเองคือจุดอ่อนสำคัญ พร้อมเสนอทางออกที่ต้องเริ่มจากการมี "ผู้นำที่ใช่" ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและลดความเหลื่อมล้ำ ควบคู่ไปกับการพัฒนาคน และที่สำคัญที่สุดคือการสร้าง "เอกภาพและเสถียรภาพ" ในชาติ เพื่อกำหนดเป้าหมายร่วมกันและเดินหน้าสู่อนาคต

รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH X ชี้ว่าประเทศไทยยังติดอยู่ในกับดักรายได้ปานกลางมานานหลายทศวรรษ แม้จะเคยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ก้าวกระโดดในช่วงปีพ.ศ. 2530 จากการเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่นหลังข้อตกลง Plaza Accord และการพัฒนาโครงการ Eastern Seaboard แต่การเติบโตดังกล่าวเป็นการพึ่งพาเทคโนโลยีและการลงทุนจากภายนอกเป็นหลัก

  • ประเทศไทยไม่สามารถพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี และสร้างแบรนด์ระดับโลกของตนเองได้อย่างเพียงพอ ต่างจากเกาหลีใต้ ไต้หวัน หรือจีนที่สามารถต่อยอดและสร้างเทคโนโลยีของตนเองได้สำเร็จ ทำให้เรายังคงเป็นเพียงฐานการผลิตที่สามารถถูกย้ายไปประเทศอื่นที่มีต้นทุนต่ำกว่าได้เสมอ

รศ.ดร.อนุสรณ์ ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างเพื่อนำพาประเทศก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง โดยมีปัจจัยสำคัญดังนี้

  • ผู้นำและรัฐบาลที่ใช่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีผู้นำทางการเมืองที่มีวิสัยทัศน์ มีเจตจำนงเพื่อสาธารณะอย่างแท้จริง สามารถวางยุทธศาสตร์ชาติที่ถูกต้อง ปราศจากผลประโยชน์ทับซ้อนและการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อให้ทิศทางการพัฒนาประเทศตรงเป้าหมาย
  • การปฏิรูปเศรษฐกิจ 2 มิติ ได้แก่

-ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งในส่วนของทุนและแรงงาน ผ่านการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม

-ลดความเหลื่อมล้ำ ต้องทำให้ผลประโยชน์จากการเติบโตกระจายสู่คนส่วนใหญ่อย่างเป็นธรรม ลดการผูกขาด เพิ่มการแข่งขัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก

  • การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ปฏิรูปการศึกษาเพื่อสร้างทัศนคติการเรียนรู้ตลอดชีวิตตั้งแต่เยาว์วัย และภาครัฐต้องสนับสนุนการ Upskill/Reskill แรงงานให้มีทักษะสูงขึ้น เพื่อให้มีรายได้สูงขึ้นตามผลิตภาพที่เพิ่มขึ้น
  • เสถียรภาพและเอกภาพของชาติ: รศ.ดร.อนุสรณ์ เน้นย้ำในตอนท้ายว่า "ก่อนที่เราจะข้ามเส้นอะไรได้ก็ตาม สังคมไทยคนไทยเนี่ยจะต้องมีเอกภาพ สังคมจะต้องมีเสถียรภาพ" การเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในสังคมที่แตกแยก ต้องสร้างเป้าหมายร่วมกันที่ชัดเจนซึ่งทุกคนรู้สึกเป็นเจ้าของและได้รับประโยชน์ร่วมกันก่อน จึงจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้

แม้หนทางข้างหน้าจะยังเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ รศ.ดร.อนุสรณ์ ยังเห็นสัญญาณที่ดีอยู่บ้าง จากการที่ผู้คนเริ่มตระหนักถึงปัญหา อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นต้องมีแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและจริงจังจากทุกภาคส่วน