ตลาดทุนไทยส่งสัญญาณบวก จากกระแสการลงทุนเพื่อความยั่งยืน ดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติ

ตลาดทุนไทยส่งสัญญาณบวก จากกระแสการลงทุนเพื่อความยั่งยืน ดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติ

คุณกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังได้รับแรงส่งจากปัจจัยบวก ทั้งจากปัจจัยระยะสั้นคือค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และปัจจัยเชิงโครงสร้างระยะยาวที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มมองไทย ในฐานะศูนย์กลางการลงทุนยั่งยืน

โดยประเมินกรอบดัชนี SET วันนี้มีแนวรับที่ 1255/1248 จุด และแนวต้านที่ 1273/1282 จุด

ปัจจัยต้องจับตา

สรุปข่าว

ตลาดทุนไทยส่งสัญญาณบวกเชิงโครงสร้างครั้งสำคัญ หลังกระแสการลงทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Investment) กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติรอบใหม่ บล.กรุงศรี ชี้ ไทยมีโอกาสก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลาง Sustainable Investment Fund ในอาเซียน

คุณกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังได้รับแรงส่งจากปัจจัยบวก ทั้งจากปัจจัยระยะสั้นคือค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และปัจจัยเชิงโครงสร้างระยะยาวที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มมองไทย ในฐานะศูนย์กลางการลงทุนยั่งยืน

โดยประเมินกรอบดัชนี SET วันนี้มีแนวรับที่ 1255/1248 จุด และแนวต้านที่ 1273/1282 จุด

ปัจจัยต้องจับตา

ไทยมีโอกาสเป็น "ESG Capital Hub" แห่งเอเชีย ข้อมูลจาก Morningstar ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2025  โดย ประเทศไทยมีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนESGสูงสุดในภูมิภาคเอเชีย อยู่ที่ 0.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นกว่า 80% ของเงินทุนใหม่ทั้งหมด ปัจจัยสำคัญมาจากนโยบายภาครัฐที่ชัดเจน เช่น การเปิดตัวกองทุน Thai ESG และการตอบรับเชิงบวกจากนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการให้ไทยเร่งขยายกำลังผลิตไฟฟ้าหมุนเวียนและส่งเสริมซัพพลายเชนที่สะอาด

กลยุทธ์จากจุดนี้ ลงทุนในกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด GULF, GPSC, BCPG และนิคมอุตสาหกรรมที่รองรับการลงทุนสีเขียว WHA, AMATA

ดอลลาร์อ่อน-บาทแข็ง หนุน Fund Flow ไหลเข้า ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) อ่อนค่าต่อเนื่องสู่ระดับ 98 จุด ขณะที่เงินบาทแข็งค่าอย่างมีเสถียรภาพที่ 32.35 บาทต่อดอลลาร์ 

เงินเฟ้อต่ำ กดดัน กนง. ลดดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อไทยที่ออกมาต่ำกว่าคาด กดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) อายุ 1 ปี ดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 30 เดือน ทำให้ตลาดเริ่มคาดการณ์ล่วงหน้า ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีโอกาสสูงที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อหุ้นหลายกลุ่มเช่น กลุ่มการเงิน (KTC), กลุ่มค้าปลีกและโรงพยาบาล และกองทุน REITs/Infra Fund ที่มีภาระหนี้สูง

ส่วนท่าทีของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจกลับมาใช้มาตรการภาษีรอบใหม่กับประเทศที่ไม่ลงทุนในสหรัฐฯ สร้างความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม บล.กรุงศรี มองว่าความเสี่ยงนี้อาจเป็น "โอกาส" ให้ไทยกลายเป็น "ฐานยุทธศาสตร์ที่สาม (Third Strategic Node)" ที่เงินทุนจะไหลเข้าแทนจีนและอินเดีย

บล.กรุงศรี แนะนำให้นักลงทุนเน้น 3 ธีมหลักในการลงทุน ได้แก่:

  1. หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็ง
  2. หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง
  3. หุ้นพื้นฐานดีที่ ราคาต่ำกว่า Valuation จริง

หุ้นแนะนำ

  • GULF 
  • KTC 
  • BDMS