ราคาน้ำมันพุ่ง หลังอิสราเอลโจมตีกาตาร์

ราคาน้ำมันพุ่ง หลังอิสราเอลโจมตีกาตาร์

ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน หลังความตึงเครียดในตะวันออกกลางปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่ออิสราเอลโจมตีเป้าหมายแกนนำกลุ่มฮามาสในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ซึ่งถือเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ และยังเป็นที่ตั้งฐานทัพอากาศอัล-อูเดดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ทำให้กาตาร์ออกมาประณามอิสราเอลทันที ขณะที่สหรัฐฯ เองก็แสดงความไม่พอใจต่อเหตุการณ์นี้ เนื่องจากกาตาร์มีบทบาทสำคัญในการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับฮามาส โดยรายงานของฮามาสระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 5 ราย และเชื่อว่าเป็นความพยายามลอบสังหารคณะเจรจาที่ไม่สำเร็จ 

สรุปข่าว

ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์จากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ผนวกกับมาตรการทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่มุ่งจำกัดรายได้รัสเซีย ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญให้ราคาน้ำมันโลกปรับขึ้น ขณะที่การเจรจาสันติภาพในกาซาที่ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และทิศทางอุปสงค์ในสหรัฐฯ ที่สะท้อนผ่านสต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ล้วนทำให้ตลาดพลังงานทั่วโลกยังคงเผชิญความผันผวนที่ต้องจับตาใกล้ชิดในทุกฝีก้าว.

ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน หลังความตึงเครียดในตะวันออกกลางปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่ออิสราเอลโจมตีเป้าหมายแกนนำกลุ่มฮามาสในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ซึ่งถือเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ และยังเป็นที่ตั้งฐานทัพอากาศอัล-อูเดดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ทำให้กาตาร์ออกมาประณามอิสราเอลทันที ขณะที่สหรัฐฯ เองก็แสดงความไม่พอใจต่อเหตุการณ์นี้ เนื่องจากกาตาร์มีบทบาทสำคัญในการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับฮามาส โดยรายงานของฮามาสระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 5 ราย และเชื่อว่าเป็นความพยายามลอบสังหารคณะเจรจาที่ไม่สำเร็จ 

สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาน้ำมันเบรนท์ส่งมอบเดือนตุลาคมปรับขึ้น 0.7% แตะระดับ 66.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน WTI ขยับขึ้น 0.7% เช่นกัน มาอยู่ที่ 62.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อีกทั้งราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากท่าทีแข็งกร้าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เดินหน้าจำกัดรายได้รัสเซียจากการส่งออกพลังงาน โดยกดดันให้พันธมิตรตะวันตกเก็บภาษีนำเข้ากับอินเดียและจีนในอัตราเดียวกับสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บระหว่าง 50–100%

และมีรายงานว่า ทรัมป์ได้ลงนามเก็บภาษีนำเข้า 100% กับน้ำมันจากทั้งสองประเทศแล้ว ซึ่งหากดำเนินการจริงจะเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อประเทศผู้นำเข้ารายใหญ่และอาจกระทบอุปทานน้ำมันในตลาดโลก ขณะที่อินเดียและจีนยังไม่มีสัญญาณจะลดการนำเข้าน้ำมันรัสเซีย เนื่องจากยังได้ส่วนลดสูงเมื่อเทียบกับราคาตลาดโลก นอกจากนี้ ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกันยังพบว่าเพิ่มขึ้นกว่า 1.25 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนว่าอุปสงค์ในประเทศยังคงชะลอตัวและอาจกดดันราคาน้ำมันในระยะสั้น

ที่มาข้อมูล : investing

ที่มารูปภาพ : canvas