วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในจีน ยังคงมีมุมมองในเชิงลบออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จอห์น แลม (John Lam) นักวิเคราะห์อสังหาริมทรัพย์จีนระดับหัวหน้าของ UBS Group AG ซึ่งเคยมีมุมมองเชิงบวกกับตลาดอสังหาฯของจีนก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าจะหันมามองในเชิงลบบ้างแล้ว โดยความเห็นล่าสุดของเค้าสอดคล้องกับนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทรายอื่น ๆ ที่ประเมินว่าวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นตัวได้ หลังจากที่วิกฤตนี้ยืดเยื้อมานานถึง 4 ปีแล้ว
สรุปข่าว
วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในจีน ยังคงมีมุมมองในเชิงลบออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จอห์น แลม (John Lam) นักวิเคราะห์อสังหาริมทรัพย์จีนระดับหัวหน้าของ UBS Group AG ซึ่งเคยมีมุมมองเชิงบวกกับตลาดอสังหาฯของจีนก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าจะหันมามองในเชิงลบบ้างแล้ว โดยความเห็นล่าสุดของเค้าสอดคล้องกับนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทรายอื่น ๆ ที่ประเมินว่าวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นตัวได้ หลังจากที่วิกฤตนี้ยืดเยื้อมานานถึง 4 ปีแล้ว
โดยแลมให้สัมภาษณ์ คาดการณ์ว่าราคาบ้านในจีนจะยังคงลดลงต่อไปอย่างน้อยอีก 2 ปี ก่อนที่ตลาดที่อยู่อาศัยจะเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว หนึ่งในสาเหตุคือ ผู้ซื้อบ้านจำนวนมากขึ้นเลือกที่จะเช่าบ้านแทนการซื้อบ้าน เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ซึ่งเป็นประเด็นที่เขาได้ระบุไว้ในรายงานเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน พร้อมกับกล่าวด้วยว่า คนที่ซื้อบ้านในจีนช่วงสิบปีที่ผ่านมา อาจจะต้องขาดทุนกันทั้งหมด และปรากฎว่าความเห็นเรื่องนี้ได้เปลี่ยนความคาดหวังด้านราคาอสังหาริมทรัพย์ไปโดยสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตามธนาคารทั่วโลกยังคงมีมุมมองที่ไม่สดใสนักสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์จีน ซึ่งปัจจุบันได้กลับเข้าสู่ภาวะยอดขายซบเซาอีกครั้งตั้งแต่ไตรมาสสอง สะท้อนชัดเจนจากการปรับลดลงของราคาบ้านในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งดิ่งไปในอัตราที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่ Fitch Ratings ระบุเมื่อเดือนที่แล้วว่าสถานการณ์อาจเลวร้ายลงอีกในปีหน้า (2569) เพราะยอดขายบ้านใหม่อาจลดลงไปอีกถึง 15% ก่อนที่ตลาดจะเริ่มทรงตัวได้
ซึ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่เพียงโครงการใหม่ บ้านมือหนึ่ง แต่แรงกระแทกไปถึงราคาบ้านมือสองในจีนด้วยเช่นกัน ที่มีการปรับราคาลดลง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ หลายมหานคร พบว่าราคาดิ่งลงไปมากกว่า 1 ใน 3 จากจุดสูงสุดเดิม ซึ่งแลมได้คาดการณ์ด้วยว่าราคาบ้านมือสองในเมืองชั้นนำของจีนจะลดลงอีกประมาณ 10% ในปี 2569 และอีก 5% ในปี 2570 ยกเว้นเพียงแต่ว่ารัฐบาลของจีนจะอัดฉีดมาตรการกระตุ้นครั้งใหญ่ขึ้นมา
- "รามยอน" บะหมี่เกาหลีบุกโลกสำเร็จ ขายความเผ็ด เกาะกระแส K-POP
- จีนเตือนสหรัฐฯ พิจารณาเรื่องไต้หวันให้รอบคอบ
- คาด “จีน” ตั้งเป้า GDP ปี 69 โตร้อยละ 5
- "ผ่อนต่อไม่ไหว" คนไทยถูก "ยึดบ้าน" พุ่ง 2 เท่า กลุ่มราคาต่ำกว่าล้านโดนเยอะสุด เกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจไทย ?
- ผ่อนต่อไม่ไหว? คนไทยถูก "ยึดบ้าน" พุ่ง 210 % ตอกย้ำวิกฤตหนี้
ที่มาข้อมูล : TNN WEALTH
ที่มารูปภาพ : CANVA
