
สรุปข่าว
วันนี้ ( 29 ส.ค. 62 )องค์การอนามัยโลกระบุว่าโลกกำลังก้าวถอยหลังในการต่อสู้กับโรคหัด โดยตัวเลขผู้ป่วยโรคหัดในปีนี้ ที่บันทึกจนถึงเดือนสิงหาคมนี้ พบผู้ป่วยโรคหัดเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยในปีนี้ พบผู้ป่วยโรคหัดแล้วทั้งสิ้น เกือบ 365,000 คนทั่วโลก ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 13 ปีนับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา โดยมีผู้เสียชีวิตจากโรคหัด 109,000 คนในปี 2560
ส่วนประเทศที่มีผู้ป่วยโรคหัดมากที่สุดในปีนี้ 3 อันดับแรก อันดับหนึ่งคือ คองโก มีผู้ป่วย 155,460 คน ตามมาด้วยมาดากัสการ์ 127,454 คน และอันดับ 3 ยูเครน 54,246 คน
ด้านสหรัฐ ปรากฏว่า ปีนี้เป็นปีที่เกิดการระบาดของโรคหัดที่เลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีนับตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา โดยในปีนี้ พบผู้ป่วยโรคหัด 1,215 คน ใน 30 รัฐของสหรัฐ
ส่วนยุโรป องค์การอนามัยโลกระบุว่า กำลังพ่ายแพ้ให้แก่โรคหัด โดย 4 ประเทศยุโรป ที่เคยได้รับสถานะประเทศปลอดโรคหัด ได้ถูกถอดสถานะดังกล่าวแล้ว ได้แก่ อังกฤษ กรีซ สาธารณรัฐเชค และอัลเบเนีย และพบผู้ป่วยโรคหัด 90,000 คนใน 53 ประเทศยุโรปเพียงช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ซึ่งสูงขึ้นกว่าจำนวนผู้ป่วยโรคหัดตลอดทั้งปีในยุโรปในปีที่แล้ว
ส่วนสาเหตุที่ทำให้โรคหัดระบาดเพิ่มขึ้นมากในปีนี้ องค์การอนามัยโลกระบุว่า เนื่องจากการขาดแคลนวัคซีนในบางพื้นที่ และจากความประมาท เนื่องจากหลายคนเชื่อว่า โรคหัดถูกกำจัดจนสิ้นซากไปแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนอีก นอกจากนี้ ในประเทศร่ำรวย ได้เกิดกระแสความไม่ไว้วางใจในวัคซีนป้องกันโรคหัด ทำให้การแพร่ระบาดของโรคหัดยังคงอยู่
ทั้งนี้ โรคหัด เป็นโรคที่สามารถติดต่อได้ง่ายมาก โดยผู้ป่วย 1 คน สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้อีก 18 คน และมีความร้ายแรงถึงขั้นทำให้พิการหรือเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็ก แต่สามารถป้องกันได้ง่ายๆ ด้วยการฉีดวัคซีน
- WHO ดันทั่วโลกขึ้นภาษี “น้ำตาล-เหล้า-บุหรี่”
- WHO ประกาศ โรคผิวหนัง เป็นประเด็นสาธารณสุขระดับโลก
- เตือนอันตราย "วัณโรค" พบป่วยรายใหม่กว่า 1 แสนคน
- โรคหัด โรคติดเชื้อไวรัสที่ควรรู้จักและป้องกัน
- สหรัฐฯ หยุดช่วยต่างชาติกระทบรักษา HIV อย่างหนักใน 8 ประเทศ
- ถอดรหัสความสำเร็จ ไทยก้าวสู่ผู้นำระดับโลกด้านการควบคุมโรคไม่ติดต่อ
- สหรัฐถอนตัวอนามัยโลก ไม่กระทบการควบคุมโรคของไทย
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand