
สรุปข่าว
-Gate of Hell คืออะไร?-
ประตูนรก หรือ ที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ประกายแสงแห่งคาราคุม” (Shining of Karakum) ตั้งอยู่กลางทะเลทรายคาราคุมในเมือง “ดาร์วาซา” ของประเทศเติร์กเมนิสถานในทวีปเอเชียกลาง มีความกว้าง 70 เมตรแต่มีความลึกเพียง 30 เมตร คาดว่าเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1970 เมื่อพื้นดินเกิดยุบตัวระหว่างการสํารวจเพื่อขุดเจาะก๊าซของโซเวียตจนทำให้เกิดเป็นหลุมก๊าซมีเทนขนาดใหญ่ แต่เพื่อไม่ให้ก๊าซมีเทนซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและต่อมนุษย์กระจายออกไป ทีมวิศวกรของโซเวียตจึงตัดสินใจจุดไฟโดยหวังว่าก๊าซเหล่านี้จะถูกเผาไหม้จนหมดแต่กลายเป็นว่าไฟที่พวกเขาได้จุดในตอนนั้นไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี จะเกิดฝนตก หรือ พายุหนักแค่ไหนเปลวไฟจากประตูนรกก็ “ไม่เคยดับ” ลงอีกเลยจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหากเข้าไปยืนใกล้ๆจะรู้สึกถึงความร้อนรุนแรงแต่ก็ทำให้เกิดภาพที่น่าอัศจรรย์โดยเฉพาะในตอนกลางคืนที่ท้องฟ้ามืดสนิทจะเกิดการตัดสลับของสีส้มแดงจากเปลวไฟ
-มนุษย์คนแรกที่ลงไปสำรวจ-
ดูเหมือนเป็นสถานที่ที่ไม่น่าจะเคยมีใครลงไปสำรวจได้ แต่ในปี 2013 “จอร์จ คูโรนิส” (George Kourounis) นักสำรวจลูกครึ่งกรีก-แคนนาเดียน เป็นคนแรกที่ได้ลงไปที่ประตูนรกนี้ หลังจากการเตรียมการที่นานกว่า 2 ปี แต่เขาสามารถใช้เวลาเพียง 17 นาทีเท่านั้นในการลงไปสำรวจ โดยนายคูโรนิสกล่าวว่า 17 นาทีเมื่อตอนนั้นยังคงฝังอยู่ในสมองเขาจนถึงทุกวันนี้ มันคือประสบการณ์ที่น่ากลัวกว่าเพราะเมื่อลงไปเขาสัมผัสได้ว่ามันยังร้อนและใหญ่กว่าที่เขาคิด อย่างไรก็ตามภายหลังการสำรวจของนายคูโรนิสก็ทำให้ประตูนรกนี้กลายเป็นที่จับตามองของคนทั่วโลกและในที่สุดมันก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมขึ้นมาในทันที
-ควรจะปิดประตูนรกนี้หรือไม่? -
ไม่ใช่ทุกคนที่รู้สึกทึ่งกับสถานที่แห่งนี้ เพราะรัฐบาลเติร์กเมนิสถานเองยังรู้สึกสองจิตสองใจกับมันว่าควรจะปิดประตูนรกนี้หรือไม่ เนื่องจากเติร์กเมนิสถานเป็นประเทศที่มีเขตอุตสาหกรรมมามายที่มักจะมีการปล่อยก๊าซมีเทนหรือก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรกาศอยู่เสมอ จึงมีการหารือร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อพยายามจะหาทางปิดแหล่งอุตสาหกรรมที่ทำลายสิ่งแวดล้อมและประตูนรกคือหนึ่งในตัวเลือกที่ถูกนำขึ้นมาถกว่าควรจะปิดมันอย่างถาวร แต่ก็เกิดคำถามใหญ่ตามมาว่าแล้วจะ “ปิดมันได้อย่างไร?” และ “อะไรคือหนทางที่ดีที่สุดที่จะปิดมัน?”
โดย จอร์จ คูโรนิส คนที่เคยลงไปสำรวจเล่าว่าในตอนที่เขาพยายามขุดพื้นด้านล่างประตูนรกเพื่อเก็บตัวอย่างดินก็พบว่าเปลวไฟได้ผุดขึ้นตามพื้นตลอดเวลาและทุกหลุมที่เขาขุดเหมือนเป็นการเปิดช่องใหม่ให้เปลวไฟผุดขึ้นมามากกว่าเดิม ซึ่งนายคูโรนิสยังสันนิฐานว่าที่เปลวไฟของประตูนรกไม่เคยดับอาจเป็นเพราะก๊าซมีเทนที่มีจำนวนมากพยายามหาทางระเหยหรือแทรกตัวออกจากน้ำที่ใช้ดับเพื่อขึ้นมาบนชั้นพื้นผิวดินอยู่เสมอ
ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ด้านเชื้อเพลงจากมหาวิทยาลัยอิมพิเรียลคอลเลจในกรุงลอนดอน ออกมากล่าวว่าความคิดที่จะปิดประตูนรกอาจผิดมหันต์และหากไม่มีเปลวไฟที่จะคอนเผาก๊าซเหล่านี้แล้วจะทำให้เกิดอันตรายมากกว่าในตอนนี้เสียอีก ดังนั้นการปิดประตูนรกด้วยการดับไฟอาจไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องสักทีเดียวเพราะจะต้องหาวิธีหยุดก๊าซมีเทนจำนวนมากที่ยังคงผุดขึ้นมาอยู่ตลอดเวลาด้วย
ทั้งนี้แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนจะเห็นด้วยกับรัฐบาลเติร์กเมนิสถานที่ควรจะปิดประตูนรกอย่างถาวรเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ก็ต้องคำนึงถึงปัญหาที่จะตามมาทั้งด้านความปลอดภัยหรือค่าใช้จ่ายในการดับไฟที่อาจมหาศาลที่สุดท้ายแล้วอาจต้องเสียไปฟรีๆหากดับไม่ได้ หรือการปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ต้องทำอะไรกับมันเลยอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุด ซึ่ง จอร์จ คูโรนิส ก็ดูเหมือนว่าจะเห็นด้วยกับแนวทางนี้ เขาได้แนะนำรัฐบาลเติร์กเมนิสถานว่าควรปล่อยให้เปลวไฟลุกอย่างที่มันเคยเป็น แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครรู้จริงๆว่าอนาคตของประตูนรกนี้จะเป็นเช่นไรต่อไปเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลเติร์กเมนิสถานใหม่ในแต่ละสมัยที่อาจจะไม่ได้ให้ความสนใจกับมันหรือไม่ก็สุดท้ายอาจจะปิดมันได้ในที่สุด
ที่มาข้อมูล : -

TNNThailand