วังเวียงสั่งปิดโฮสเทล ที่ต่างชาติเสียชีวิตเพราะดื่มเหล้าเถื่อน

เดนมาร์ก 2 ราย ออสเตรเลีย 2 ราย อังกฤษ 1 ราย และนักท่องเที่ยวชายชาวอเมริกันอีก 1 ราย ในจำนวนนี้ นักท่องเที่ยวหญิงชาวเดนมาร์ก 2 ราย อายุ 20 ปี และ 21 ปี ซึ่งไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในนครหลวงเวียงจันทน์ และนักท่องเที่ยวชายชาวอเมริกัน อายุ 57 ปี ซึ่งพบนอนเสียชีวิตอยู่ในห้องพัก ต่างเข้าพักอยู่ในเฮือนพัก นานา แบ็กแพกเกอร์ โฮสเทล ซึ่งมีชาวเวียดนามเป็นเจ้าของกิจการ โดยได้เช่าพื้นที่จากคนลาวเพื่อเปิดเฮือนพักรับนักท่องเที่ยว

ก่อนหน้านี้ ตำรวจท่องเที่ยวได้ควบคุมตัวผู้จัดการโรงแรมที่นักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตหลายคนเข้าพักก่อนเสียชีวิตไป เพราะมีการแจกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ฟรี แต่ทางโรงแรมชี้ว่า ได้แจกให้นักท่องเที่ยวนับร้อยคน แต่คนอื่นๆ ปลอดภัยดี ไม่มีอาการป่วย

สื่อต่างชาติรายงานว่า สถานการณ์ในเมืองวังเวียงช่วงนี้ไม่ถึงกับเงียบเหงา ยังคงมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปท่องเที่ยวอยู่เช่นเดิม ซึ่งที่นี่มีชื่อเสียงจากการกิจกรรมที่เรียกว่า tubing หรือการที่นักท่องเที่ยวนั่งห่วงยางลอยไปตามลำน้ำอันมีชื่อเสียงและมีทิวทัศน์สวยงามของเมืองวังเวียง แล้วแวะตามบาร์ต่างๆ ที่ตั้งริมลำน้ำเพื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งหลายร้านจัดกิจกรรมแจกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฟรีให้นักท่องเที่ยวดื่มกันไม่อั้น ที่หลายฝ่ายเชื่อว่า บางส่วนเป็นเหล้าเถื่อนที่ลักลอบผสมเมทานอล นักท่องเที่ยวหลายคนบอกว่า พวกเขาดื่มกินกันที่เมืองวังเวียงเป็นปกติ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับจากบาร์และโรงแรมเป็นเหล้าเถื่อน หลังจากนี้คงไม่กล้าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่มีฉลากกำกับชัดเจน

ขณะที่บิดาของ เบียงก้า โจนส์ นักท่องเที่ยวหญิงชาวออสเตรเลียซึ่งเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้วขณะถูกนำตัวมารักษาในโรงพยาบาลที่ประเทศไทย แถลงข่าวเปิดใจกับการสูญเสีย ระบุว่า บุตรสาวเพิ่งจะเริ่มต้นชีวิตหลังจากจบการศึกษา เป็นการท่องเที่ยวผจญโลกกับเพื่อนสนิทซี่งควรจะเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำของชีวิต เขาจึงอยากให้ชีวิตของลูกสาวเป็นบทเรียนและใช้ปกป้องชีวิตของคนอื่น ๆ ไม่ให้ต้องประสบชะตาเดียวกัน จึงขอเรียกร้องให้ทางการ สปป.ลาวสืบสวนเรื่องนี้อย่างเต็มที่