DeepSeek คืออะไร ? แอป AI จากจีน มาแรง อันดับ 1 ในสหรัฐฯ

DeepSeek คืออะไร ? แอป AI จากจีน มาแรง อันดับ 1 ในสหรัฐฯ

แอพลิเคชั่นปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ต้นทุนต่ำสัญชาติจีนที่ชื่อ DeepSeek เป็นของบริษัทสตาร์ทอัพในเมืองหางโจวของจีน มียอดดาวน์โหลดสูงมากในสหรัฐฯ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะสามารถใช้งานได้ฟรี และมีประสิทธิภาพสูงเทียบเคียงกับรายใหญ่ๆ ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำด้าน AI ในขณะนี้ แม้ว่าใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีและต้นทุนที่ต่ำกว่าเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์ (ราว 220 ล้านบาท) ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ใช้เงินพัฒนาเทคโนโลยี AI ไปแล้วมากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ (เกือบ 170,000 ล้านบาท) บรรดานักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญ มองกันว่า จีนพัฒนาเทคโนโลยีนี้ออกมาได้ดีกว่า รวดเร็วกว่า และต้นทุนต่ำกว่าสหรัฐฯ อย่างมาก ทั้งที่สหรัฐฯ พยายามกีดกันการส่งออกเทคโนโลยีชิปล้ำสมัยสำหรับใช้พัฒนาระบบ AI ไปยังจีน 

ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นกำลังส่งผลกระทบต่อบรรดาบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำต่างๆ หุ้นของหลายบริษัทหล่นฮวบ โดยเฉพาะ เอ็นวิเดีย (Nvidia) บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ ถูกเทขายหนักจนสูญเสียมูลค่าไปแล้วเกือบ 600,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 20 ล้านล้านบาท เป็นการดิ่งลงของมูลค่าหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันเดียวสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เช่นเดียวกับหุ้นของบริษัทชั้นนำอื่นๆ รวมถึง OpenAI, กูเกิล และ เมตา เจ้าของแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ก็ปรับลดลง ทำให้ดัชนีนาสแด็ค หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปิดตลาดลดลงมากกว่า 3% แล้วยังต้องรอดูว่าจะกระทบกับผลประกอบการของเมตา รวมไปถึงไมโครซอฟต์หรือไม่ เพราะทั้งสองมีกำหนดออกรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้  

สรุปข่าว

แอพลิเคชั่นปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ต้นทุนต่ำสัญชาติจีนที่ชื่อ DeepSeek เป็นของบริษัทสตาร์ทอัพในเมืองหางโจวของจีน มียอดดาวน์โหลดสูงมากในสหรัฐฯ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะสามารถใช้งานได้ฟรี และมีประสิทธิภาพสูงเทียบเคียงกับรายใหญ่ๆ ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำด้าน AI ในขณะนี้ แม้ว่าใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีและต้นทุนที่ต่ำกว่าเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์ (ราว 220 ล้านบาท) ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ใช้เงินพัฒนาเทคโนโลยี AI ไปแล้วมากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ (เกือบ 170,000 ล้านบาท) บรรดานักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญ มองกันว่า จีนพัฒนาเทคโนโลยีนี้ออกมาได้ดีกว่า รวดเร็วกว่า และต้นทุนต่ำกว่าสหรัฐฯ อย่างมาก ทั้งที่สหรัฐฯ พยายามกีดกันการส่งออกเทคโนโลยีชิปล้ำสมัยสำหรับใช้พัฒนาระบบ AI ไปยังจีน 

ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นกำลังส่งผลกระทบต่อบรรดาบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำต่างๆ หุ้นของหลายบริษัทหล่นฮวบ โดยเฉพาะ เอ็นวิเดีย (Nvidia) บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ ถูกเทขายหนักจนสูญเสียมูลค่าไปแล้วเกือบ 600,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 20 ล้านล้านบาท เป็นการดิ่งลงของมูลค่าหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันเดียวสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เช่นเดียวกับหุ้นของบริษัทชั้นนำอื่นๆ รวมถึง OpenAI, กูเกิล และ เมตา เจ้าของแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ก็ปรับลดลง ทำให้ดัชนีนาสแด็ค หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปิดตลาดลดลงมากกว่า 3% แล้วยังต้องรอดูว่าจะกระทบกับผลประกอบการของเมตา รวมไปถึงไมโครซอฟต์หรือไม่ เพราะทั้งสองมีกำหนดออกรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้  

สำหรับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ได้เปิดตัวแผนลงทุนมูลค่ามหาศาลถึง 500,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างศูนย์ AI ในสหรัฐ โดยมีซอฟตืแบงค์ ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น และ OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT เป็นผู้นำ กล่าวหลังได้รายงานตลาดหุ้นว่า การที่ DeepSeek บริษัทของจีน มี AI ที่เร็วกว่าและถูกกว่า ซึ่งทำให้ผูัคนได้ใช้ AI ที่ได้ผลเหมือนกันแต่ไม่ต้องจ่ายเงินมากนั้น เป็นสิ่งที่ดี มีคุณค่าในการปฏิบัติตาม เพราะไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมายมหาศาลก็สามารถสร้างผลงานที่ดีได้เช่นกัน และว่า DeepSeek เป็นสิ่งกระตุ้นเตือนบริษัทอเมริกันให้เร่งพัฒนาและเร่งมือในการแข่งขัน เพราะสหรัฐฯ มีนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำอยู่มากมาย

DeepSeek เป็นสตาร์ทอัพขนาดเล็กในเมืองหางโจว ที่ก่อตั้งในปี 2023 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ไป่ตู้ (Baidu) ยักษ์ใหญ่ด้านเครื่องมือสืบค้นข้อมูลของจีนเปิดตัวโมเดลภาษาขนาดใหญ่ตัวแรกของประเทศจีน แอพลิเคชั่น แอพฯ DeepSeek ขับเคลื่อนด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ DeepSeek-V3 แบบโอเพนซอร์ส ลักษณะการใช้งานเป็นแชตบอท หน้าตาคล้าย ChatGPT, Gemini และอีกหลายแชตบอทเอไอที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ ใช้ซักถาม ตอบปัญหา หรือช่วยสร้างสรรค์เรียบเรียงข้อมูลต่าง ๆ

ผู้ที่ก่อตั้ง และพัฒนา DeepSeek คือ เหลียง เวินฟง วัย 40 ปี เขาเพิ่งเข้านายกรัฐมนตรี หลี่ เฉียง ของจีน เมื่อสัปดาห์ก่อน และเผยว่า เคล็ดลับของเขาคือการนำชิปของ เอ็นวิเดีย รุ่น A100 มาใช้สำหรับการประมวลข้อมูล แต่เมื่อขณะนี้ ชิปรุ่นนี้ถูกห้ามส่งออกไปจีนเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เขาจึงนำชิปรุ่นอื่นๆ ที่มีราคาถูกกว่ามาก มาใช้ร่วมกัน ผลที่ออกมาประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง เปิดให้ดาวน์โหลดได้ฟรีและกลายเป็นแอพลิเคชั่นอันดับหนึ่ง เพราะมีประสิทธิภาพเทียบเท่า ChatGPT ผู้ใช้บางคนบอกว่า สร้างผลงานที่สะท้อนเอกลักษณ์ของผู้ใช้งานด้วย 

ที่มาข้อมูล : Reuters, BBC

ที่มารูปภาพ : -

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ