
ศาลในกรุงวอชิงตัน ดีซี มีคำตัดสินให้ระงับคำสั่งของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ให้แช่แข็งเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางที่มีมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือกว่า 34 ล้านล้านบาท ซึ่งแต่เดิมจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 17:00 น. ของวันอังคารที่ 28 มกราคม และทำให้เกิดความกังวลว่าจะมีโครงการใดของรัฐบาลบ้างที่ได้รับผลกระทบจากการแช่แข็งเงินช่วยเหลือตรงนี้ เพราะเงินช่วยเหลือตรงนี้ ถูกนำไปใช้ในหลายโครงการ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายแค่ไม่กี่นาที ลอเรน อาลิคัน ผู้พิพากษาของศาลแขวงสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี ได้เข้ามาแทรกแซง โดยสั่งระงับการแช่แข็งเงินช่วยเหลือเป็นการชั่วคราว และยืดกำหนดเส้นตายออกไปจนถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์เป็นอย่างน้อย
สรุปข่าว
ศาลในกรุงวอชิงตัน ดีซี มีคำตัดสินให้ระงับคำสั่งของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ให้แช่แข็งเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางที่มีมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือกว่า 34 ล้านล้านบาท ซึ่งแต่เดิมจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 17:00 น. ของวันอังคารที่ 28 มกราคม และทำให้เกิดความกังวลว่าจะมีโครงการใดของรัฐบาลบ้างที่ได้รับผลกระทบจากการแช่แข็งเงินช่วยเหลือตรงนี้ เพราะเงินช่วยเหลือตรงนี้ ถูกนำไปใช้ในหลายโครงการ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายแค่ไม่กี่นาที ลอเรน อาลิคัน ผู้พิพากษาของศาลแขวงสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี ได้เข้ามาแทรกแซง โดยสั่งระงับการแช่แข็งเงินช่วยเหลือเป็นการชั่วคราว และยืดกำหนดเส้นตายออกไปจนถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์เป็นอย่างน้อย
การแช่แข็งเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางเป็นความพยายามยกเครื่องการทำงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่ง แคโรไลน์ ลีวิตต์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อของทำเนียบขาว เปิดเผยว่าการแช่แข็งเงินช่วยเหลือจะมุ่งเน้นไปที่โครงการของเดโมแครตเป็นหลัก ซึ่งหากมีหน่วยงานใดที่ได้รับผลกระทบ และเชื่อว่าโครงการของหน่วยงานตัวเองสอดคล้องกับนโยบายของทรัมป์ ก็สามารถยื่นเรื่องเข้ามาให้ทางรัฐบาลทบทวนเพื่อให้เงินสนับสนุนต่อไปได้ ขณะที่ สส. ของพรรครีพับลิกันมองว่าการแช่แข็งเงินช่วยเหลือตรงนี้ เป็นการควบคุมการใช้งบประมาณของรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามเป้าหมายมากขึ้น โดยย้ำว่าโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อชาวอเมริกัน จะไม่ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม สส. พรรคเดโมแครตมองว่าการแช่แข็งเงินช่วยเหลือเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายและโหดร้าย ที่จะทำให้หมอและครูทั่วประเทศไม่ได้รับค่าจ้าง และผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือประชาชน
- ทรัมป์ถอน “จาเร็ด ไอแซกแมน” เพื่อนอีลอน มัสก์ ออกจากการเสนอชื่อเป็นผู้บริหารองค์การนาซาคนใหม่
- รมว.กลาโหมสหรัฐฯ เรียกร้องเอเชียเพิ่มงบประมาณกลาโหมรับมือความมั่นคงอินโด-แปซิฟิก
- ไบเดนปรากฏตัวครั้งแรกหลังป่วยมะเร็ง เผยเข้ารับการบำบัดแล้วกำลังใจดีเยี่ยม
- ทรัมป์ลุยเพิ่มภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม 50% หวังดันอุตสาหกรรมในประเทศ
- "ทรัมป์" ชื่นชม "อีลอน มัสก์" ย้ำมัสก์ไม่ได้ลาขาดจาก DOGE จะกลับมาเป็นพัก ๆ
- ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากเดิม 25 เปอร์เซ็นต์ เป็น 50 เปอร์เซ็นต์
- วิกฤตหนี้สหรัฐฯ "36 ล้านล้านเหรียญ" ที่ "ทรัมป์" ต้องแบกหลังแอ่น
TNNThailand