
การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ แลปท็อปจากประเทศจีน ทำให้หลายคนมองว่าสหรัฐฯ ยอมอ่อนข้อให้จีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมกันและเรียกเก็บภาษีตอบโต้อีกฝ่ายแบบสุดโต่ง
ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้บนสื่อสังคมออนไลน์ว่า “ไม่มีใครรอดจากการขึ้นภาษีทั้งนั้น” โดยเขาอธิบายว่าไม่ได้ยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่จีน เพราะสินค้ากลุ่มนี้ยังคงถูกเก็บภาษี 20% และกำลังถูกย้ายไปอยู่ในกลุ่มภาษีประเภทอื่นชั่วคราว ซึ่งก็มีโอกาสที่จะถูกนำไปรวมกับภาษีกลุ่มสินค้าประเภทเซมิคอนดักเตอร์ ที่สหรัฐฯ กำลังพิจารณาอยู่ในขณะนี้ และอาจมีการประกาศเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป
ทรัมป์ยืนยันว่า “เราจะไม่ยอมถูกประเทศอื่นจับเป็นตัวประกัน โดยเฉพาะประเทศที่รุกรานเราด้ายการค้าอย่างประเทศจีน”
อย่างไรก็ตาม การที่สินค้าอิเล็กโทรนิกส์ของจีน ไม่ได้ถูกเก็บภาษีสูงถึง 145% ตามที่ทรัมป์ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นฟิวเจอร์ส์ ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น ถือเป็นการฟื้นตัวของตลาดหุ้นหลังจากที่เกิดการผันผวนอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นผลมาจากเรื่องที่ทรัมป์ยืนยันประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้กับหลายประเทศทั่วโลก ก่อนที่จะตัดสินใจผ่อนปรนในภายหลัง ซึ่งบรรดานักลงทุนก็ยังคงไม่แน่ใจว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่ เพราะจนถึงตอนนี้ ทางสหรัฐฯ และจีน ก็ยังคงไม่มีการเจรจากันเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้สภาพเศรษฐกิจโลกยังคงไม่มีความแน่นอนสูง ส่งผลให้หลายคนหนีไปซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทองคำ จนทำให้ราคาทองคำพุ่งแตะสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
สรุปข่าว
การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ แลปท็อปจากประเทศจีน ทำให้หลายคนมองว่าสหรัฐฯ ยอมอ่อนข้อให้จีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมกันและเรียกเก็บภาษีตอบโต้อีกฝ่ายแบบสุดโต่ง
ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้บนสื่อสังคมออนไลน์ว่า “ไม่มีใครรอดจากการขึ้นภาษีทั้งนั้น” โดยเขาอธิบายว่าไม่ได้ยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่จีน เพราะสินค้ากลุ่มนี้ยังคงถูกเก็บภาษี 20% และกำลังถูกย้ายไปอยู่ในกลุ่มภาษีประเภทอื่นชั่วคราว ซึ่งก็มีโอกาสที่จะถูกนำไปรวมกับภาษีกลุ่มสินค้าประเภทเซมิคอนดักเตอร์ ที่สหรัฐฯ กำลังพิจารณาอยู่ในขณะนี้ และอาจมีการประกาศเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป
ทรัมป์ยืนยันว่า “เราจะไม่ยอมถูกประเทศอื่นจับเป็นตัวประกัน โดยเฉพาะประเทศที่รุกรานเราด้ายการค้าอย่างประเทศจีน”
อย่างไรก็ตาม การที่สินค้าอิเล็กโทรนิกส์ของจีน ไม่ได้ถูกเก็บภาษีสูงถึง 145% ตามที่ทรัมป์ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นฟิวเจอร์ส์ ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น ถือเป็นการฟื้นตัวของตลาดหุ้นหลังจากที่เกิดการผันผวนอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นผลมาจากเรื่องที่ทรัมป์ยืนยันประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้กับหลายประเทศทั่วโลก ก่อนที่จะตัดสินใจผ่อนปรนในภายหลัง ซึ่งบรรดานักลงทุนก็ยังคงไม่แน่ใจว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่ เพราะจนถึงตอนนี้ ทางสหรัฐฯ และจีน ก็ยังคงไม่มีการเจรจากันเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้สภาพเศรษฐกิจโลกยังคงไม่มีความแน่นอนสูง ส่งผลให้หลายคนหนีไปซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทองคำ จนทำให้ราคาทองคำพุ่งแตะสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียก็ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงการเปิดซื้อขายเช้าวันนี้เช่นกัน ซึ่งก็เป็นผลมาจากเรื่องที่สินค้านำเข้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์จากจีนบางประเภทไม่ได้ถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 145 % เหมือนกับสินค้าประเภทอื่น ๆ แม้ว่าจะยังคงถูกเก็บอยู่ในอัตรา 20 % แต่ก็ถือว่าลดลงค่อนข้างมาก
- ทรัมป์ลุยเพิ่มภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม 50% หวังดันอุตสาหกรรมในประเทศ
- "ทรัมป์" ชื่นชม "อีลอน มัสก์" ย้ำมัสก์ไม่ได้ลาขาดจาก DOGE จะกลับมาเป็นพัก ๆ
- ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากเดิม 25 เปอร์เซ็นต์ เป็น 50 เปอร์เซ็นต์
- คาดยอดขาย"สมาร์ตโฟน"ปี 2568 โตแผ่ว
- วิกฤตหนี้สหรัฐฯ "36 ล้านล้านเหรียญ" ที่ "ทรัมป์" ต้องแบกหลังแอ่น
- จีนเลิก "แบน" อาหารทะเลญี่ปุ่น จ่อนำเข้าอีกครั้ง
- สงครามภาษี! ทำตลาดมือถือ เหลือโต 0.6% ต่ำสุดรอบปี l การตลาดเงินล้าน
