
บริษัท DHL Express ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือของ Deutsche Post จากเยอรมนี ประกาศว่าจะ ระงับการจัดส่งพัสดุแบบธุรกิจถึงผู้บริโภค (B2C) ไปยังบุคคลในสหรัฐอเมริกาที่มีมูลค่าเกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่เกิน 26,680 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 เมษายนนี้
สาเหตุเกิดจากกฎระเบียบด้านศุลกากรของสหรัฐฯ ที่มีการปรับเปลี่ยนเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา โดยกำหนดให้พัสดุที่มีมูลค่าเกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐทุกชิ้นต้องผ่านขั้นตอนการ ‘เคลียร์ศุลกากรแบบเป็นทางการ’ ซึ่งก่อนหน้านี้ขีดจำกัดอยู่ที่ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 83,375 บาท
สรุปข่าว
บริษัท DHL Express ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือของ Deutsche Post จากเยอรมนี ประกาศว่าจะ ระงับการจัดส่งพัสดุแบบธุรกิจถึงผู้บริโภค (B2C) ไปยังบุคคลในสหรัฐอเมริกาที่มีมูลค่าเกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่เกิน 26,680 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 เมษายนนี้
สาเหตุเกิดจากกฎระเบียบด้านศุลกากรของสหรัฐฯ ที่มีการปรับเปลี่ยนเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา โดยกำหนดให้พัสดุที่มีมูลค่าเกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐทุกชิ้นต้องผ่านขั้นตอนการ ‘เคลียร์ศุลกากรแบบเป็นทางการ’ ซึ่งก่อนหน้านี้ขีดจำกัดอยู่ที่ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 83,375 บาท
DHL ระบุว่า มาตรการนี้เป็นเพียงการระงับชั่วคราว โดยเฉพาะพัสดุที่ส่งแบบ B2C จากทั่วโลกมายังผู้บริโภคในสหรัฐฯ
สำหรับพัสดุประเภทอื่น ๆ การจัดส่งแบบ ธุรกิจถึงธุรกิจ (B2B) ยังสามารถทำได้ แต่อาจล่าช้า, พัสดุที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น B2B หรือ B2C ไม่ได้รับผลกระทบ
ก่อนหน้านี้ DHL เคยให้ข้อมูลกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า จะยังคงดำเนินการจัดส่งพัสดุจากฮ่องกงมายังสหรัฐฯ ตามระเบียบใหม่ และจะช่วยลูกค้าปรับตัวให้ทันก่อนมาตรการใหม่ในวันที่ 2 พฤษภาคม
ทั้งนี้ คำประกาศของ DHL มีขึ้นหลังจาก ไปรษณีย์ฮ่องกง (Hongkong Post) ประกาศระงับบริการส่งพัสดุทางเรือไปยังสหรัฐฯ พร้อมตำหนิว่ามาตรการของวอชิงตันที่ยกเลิกสิทธิ์ส่งสินค้าปลอดภาษีจากจีนและฮ่องกง เป็นการรังแกทางการค้า