อีลอน มัสก์ เตรียมลดบทบาททำงานให้ทรัมป์ เหลือแค่ 1-2 วันต่อสัปดาห์

อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชื่อดัง ส่งสัญญาณว่าเขาจะลดบทบาทของเขาในการทำงานให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ของ โดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากที่เขาเจอกระแสต่อต้านมานานหลายเดือนจากการที่เขาเข้าไปช่วยทรัมป์ทำงาน จนทำให้มีกระแสต่อต้านคนไม่ซื้อรถยนต์เทสลา แล้วก็ทำให้หุ้นของบริษัทตกลง อย่างรายงานที่เพิ่งออกมา ก็พบว่ายอดขายรถเทสลาในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ลดลง รายได้ลดลง 20% เมื่อเทียบกับรายได้เมื่อสามเดือนแรกของปีที่แล้ว ผลกำไรก็ลดลงมากกว่า 70% 

มัสก์ประกาศว่า เขาจะลดเวลาการทำงานให้กับรัฐบาลลงเหลือนิดเดียว ในหนึ่งสัปดาห์จะทำงานให้กับกรมประสิทธิภาพการใช้จ่ายภาครัฐ หรือ DOGE ที่เขาเป็นหัวหน้าแค่ 1-2 วันเท่านั้น ถ้าหากว่าทรัมป์ยังอยากให้เขาทำงานให้อยู่ และคิดว่าการทำงานของเขายังเป็นประโยชน์อยู่ อย่างไรก็ตาม มัสก์บอกว่าเวลาทำงานของเขาที่ทำให้กับรัฐบาลนั้นจะลดลงอย่างมาก ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป ซึ่งมัสก์บอกด้วยว่า การที่เขาจะลดเวลาการทำงานตรงนี้ลงก็ไม่น่าเป็นปัญหาอะไร เพราะการจัดการเรื่องการลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐที่เป็นหน้าที่รัฐผิดชอบของเขานั้น ก็ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มัสก์อาจจะอยากถอนตัวออกจากการทำงานให้กับทรัมป์ เป็นเพราะเรื่องการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศจีน 145% เพราะมัสก์ก็เป็นนักธุรกิจคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้โดยตรง เพราะเทสลาก็มีโรงงานผลิตรถยนต์อยู่ที่ประเทศจีน และแม้ว่ารถเทสลาที่ขายในสหรัฐฯ จะผลิตจากโรงงานในสหรัฐฯ ไม่ได้เป็นรถเทสลาที่นำเข้าจากประเทศจีน แต่ว่าชิ้นส่วนและอะไหล่หลาย ๆ อย่าง ที่ใช้ในการประกอบรถยนต์เทสลาในสหรัฐฯ ต้องนำเข้ามาจากประเทศจีน และเมื่ออะไหล่เหล่านี้เจอภาษี ก็ทำให้รถเทสลาที่ขายในสหรัฐฯ ต้องมีต้นทุนที่แพงมากขึ้นตามไปด้วย