ขณะนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครบ 100 วันแล้ว ซึ่งเป็นธรรมเนียมในอเมริกาที่จะต้องมีการติดตามดูว่าในช่วง 100 วันที่ผ่านมา ประธานาธิบดีได้มีผลงานอะไร หรือสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรให้เกิดขึ้นบ้าง รวมทั้งเป็นการสำรวจความรู้สึกของประชาชนว่า รู้สึกอย่างไรบ้าง หลังจากที่ได้เห็นประธานาธิบดีที่ชนะการเลือกตั้งได้ทำงาน รู้สึกว่าพอใจหรือผิดหวังกับการทำงานของประธานาธิบดี ซึ่งเราต้องบอกว่า หลังจากที่ทรัมป์กลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครบ 100 วันแล้ว มีเรื่องราวเกิดขึ้นให้คนทั่วโลกได้ตื่นเต้นและติดตาม แทบไม่เว้นแต่ละวัน
การทำงานของทรัมป์ในช่วง 100 วันแรก ต้องบอกว่ามีความรวดเร็ว อย่างการออกคำสั่งฝ่ายบริหาร ทรัมป์ก็ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารไปมากว่า 100 ฉบับแล้ว มีทั้งการยกเลิกคำสั่งเดิมของ โจ ไบเดน การให้สหรัฐฯ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก การสั่งจัดตั้งกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล ชะลอคำสั่งปิดติ๊กต็อก การอภัยโทษให้ผู้ก่อเหตุบุกยึดอาคารรัฐสภา การประกาศภาวะฉุกเฉินที่ชายแดนทางใต้ที่ติดกับเม็กซิโก แล้วก็การให้สหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส เรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศด้วย
แล้วทรัมป์ก็เอาจริงกับเรื่องการจับกุมและเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมาย อย่างที่เขาเคยสัญญาตอนหาเสียงว่า จะมีการเนรเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา ข้อมูลเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลของทรัมป์เนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายแล้วมากกว่า 100,000 คน
ทรัมป์ยังได้เดินหน้าประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศต่าง ๆ เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงนี้ก็เป็นไปตามที่เขาเคยให้สัญญาไว้ว่าจะจัดการกับปัญหาที่สหรัฐฯ ถูกหลายประเทศทั่วโลกทำการค้าอย่างไม่เป็นธรรม แม้จะมีการชะลอการขึ้นภาษีออกไป 90 วัน แต่ก็ทำให้หลายประเทศยอมที่จะมาเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ และยอมที่จะสั่งซื้อสินค้ากับสหรัฐฯ มากขึ้น เพื่อแลกกับการไม่ถูกขึ้นภาษี เพราะก็ต้องยอมรับว่าอเมริกาเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่หลายประเทศต้องส่งสินค้ามาขาย แต่ก็มีบางประเทศที่ขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐฯ อย่างจีน ซึ่งก็สร้างความตึงเครียดให้ระบบเศรษฐกิจของโลก และก็มีอีกหลายประเทศที่มองว่าทรัมป์ขึ้นภาษีแบบไม่เป็นธรรม
ในส่วนของการเจรจายุติสงครามในยูเครน ที่ทรัมป์เคยบอกว่าจะยุติสงครามในวันแรก ตรงนี้ก็ยังทำได้ไม่สำเร็จ ยังอยู่ระหว่างการเกลี้ยกล่อม ให้ทางยูเครนและรัสเซีย มาร่วมนั่งโต๊ะเจรจา เพื่อที่จะทำข้อตกลงหยุดยิงแบบถาวรซึ่งจะนำไปสู่สันติภาพ
สรุปข่าว
ขณะนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครบ 100 วันแล้ว ซึ่งเป็นธรรมเนียมในอเมริกาที่จะต้องมีการติดตามดูว่าในช่วง 100 วันที่ผ่านมา ประธานาธิบดีได้มีผลงานอะไร หรือสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรให้เกิดขึ้นบ้าง รวมทั้งเป็นการสำรวจความรู้สึกของประชาชนว่า รู้สึกอย่างไรบ้าง หลังจากที่ได้เห็นประธานาธิบดีที่ชนะการเลือกตั้งได้ทำงาน รู้สึกว่าพอใจหรือผิดหวังกับการทำงานของประธานาธิบดี ซึ่งเราต้องบอกว่า หลังจากที่ทรัมป์กลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครบ 100 วันแล้ว มีเรื่องราวเกิดขึ้นให้คนทั่วโลกได้ตื่นเต้นและติดตาม แทบไม่เว้นแต่ละวัน
การทำงานของทรัมป์ในช่วง 100 วันแรก ต้องบอกว่ามีความรวดเร็ว อย่างการออกคำสั่งฝ่ายบริหาร ทรัมป์ก็ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารไปมากว่า 100 ฉบับแล้ว มีทั้งการยกเลิกคำสั่งเดิมของ โจ ไบเดน การให้สหรัฐฯ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก การสั่งจัดตั้งกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล ชะลอคำสั่งปิดติ๊กต็อก การอภัยโทษให้ผู้ก่อเหตุบุกยึดอาคารรัฐสภา การประกาศภาวะฉุกเฉินที่ชายแดนทางใต้ที่ติดกับเม็กซิโก แล้วก็การให้สหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส เรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศด้วย
แล้วทรัมป์ก็เอาจริงกับเรื่องการจับกุมและเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมาย อย่างที่เขาเคยสัญญาตอนหาเสียงว่า จะมีการเนรเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา ข้อมูลเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลของทรัมป์เนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายแล้วมากกว่า 100,000 คน
ทรัมป์ยังได้เดินหน้าประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศต่าง ๆ เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงนี้ก็เป็นไปตามที่เขาเคยให้สัญญาไว้ว่าจะจัดการกับปัญหาที่สหรัฐฯ ถูกหลายประเทศทั่วโลกทำการค้าอย่างไม่เป็นธรรม แม้จะมีการชะลอการขึ้นภาษีออกไป 90 วัน แต่ก็ทำให้หลายประเทศยอมที่จะมาเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ และยอมที่จะสั่งซื้อสินค้ากับสหรัฐฯ มากขึ้น เพื่อแลกกับการไม่ถูกขึ้นภาษี เพราะก็ต้องยอมรับว่าอเมริกาเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่หลายประเทศต้องส่งสินค้ามาขาย แต่ก็มีบางประเทศที่ขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐฯ อย่างจีน ซึ่งก็สร้างความตึงเครียดให้ระบบเศรษฐกิจของโลก และก็มีอีกหลายประเทศที่มองว่าทรัมป์ขึ้นภาษีแบบไม่เป็นธรรม
ในส่วนของการเจรจายุติสงครามในยูเครน ที่ทรัมป์เคยบอกว่าจะยุติสงครามในวันแรก ตรงนี้ก็ยังทำได้ไม่สำเร็จ ยังอยู่ระหว่างการเกลี้ยกล่อม ให้ทางยูเครนและรัสเซีย มาร่วมนั่งโต๊ะเจรจา เพื่อที่จะทำข้อตกลงหยุดยิงแบบถาวรซึ่งจะนำไปสู่สันติภาพ
ในส่วนของคะแนนนิยมทรัมป์ หลังจากกลับมารับตำแหน่งครบ 100 วัน พบว่าลดลง โดยผลสำรวจของ CNN Poll พบว่าคะแนนนิยมของทรัมป์อยู่ที่ 41% กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีคะแนนนิยมในช่วง 100 วันแรก ต่ำที่สุดในรอบ 70 ปี ขณะที่การสำรวจของ ABC News และ The Washington Post ก็พบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 39% ที่บอกว่าพอใจผลงานของทรัมป์ และมีคนที่ตอบว่าไม่พอใจมากถึง 55% ถือว่าเป็นสถิติที่แย่ที่สุดในรอบ 80 ปี โดยผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าไม่เห็นด้วยกับการขึ้นภาษีสินค้าต่างประเทศของทรัมป์ และมองว่านโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ จะทำให้เศรษฐกิจอเมริกาแย่กว่าเดิม
